คำค้นหา

หน้าแรก   >>   คำค้นหา   >>   ไทย


Unseen Thailand! กับ 5 บ่อน้ำพุร้อนทั่วไทย
ไทย

  Unseen Thailand กับ 5 บ่อน้ำพุร้อนทั่วไทย เที่ยวได้อุ่นใจ เงินออมก็มี ลดหย่อนภาษีก็ได้     ‘เพราะชีวิตคือการเดินทาง’ อย่ารอให้ถึงวันที่เรา 'เกษียณ' แล้วออกไปเดินทาง เพราะความสนุกมันต่างกันเยอะ!         ใครที่ชอบไปญี่ปุ่นเพื่อไปอาบน้ำแร่ แช่น้ำพุร้อน บอกเลยว่าเที่ยวในเมืองไทยก็พอ เพราะสถานที่แช่น้ำพุร้อนของไทยก็สวยไม่แพ้ที่ญี่ปุ่นเหมือนกัน แถมยังเหมือนเป็นการช็อปช่วยชาติ สนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศไปในตัวอีกด้วย ใครยังไม่ได้วางแผนไปเที่ยวช่วงปลายปี แวะมาอ่านบทความนี้แล้วมาเตรียมตัวกันเลยดีกว่า…     ทริคการวางแผนค่าใช้จ่าย         ลองเปลี่ยนบรรยากาศการเที่ยวเมืองฮิตๆ เป็นเที่ยวเมืองรองดูสิ ลดหย่อนภาษีปี 2561 ได้เหมือนกัน สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท เพราะฉะนั้นเราควรวางแผนเงินออมให้ดี โดยเฉพาะการเดินทาง หากเหล่านักเดินทางคนไหน หมดค่าใช้จ่ายไปกับการเดินทางโดยที่ไม่ได้แบ่งเงินออมไว้ ให้ระวังช่วงวัยเกษียณอายุให้ดี คุณอาจจะมีปัญหาตามมาได้! หรือถ้าไม่อยากแบ่งออมหลายๆ ส่วนให้ยุ่งยาก การเลือกแบบประกันประเภทบำนาญอย่าง "iRetire" ที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 200,000 บาท ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน! เมื่อเราวางแผนค่าใช้จ่ายในชีวิตทั้งปัจจุบันและอนาคตได้แล้ว การท่องเที่ยวของเราก็จะแฮปปี้มากขึ้น แถมยังเที่ยวสนุกได้ยิ่งกว่าเดิม :-)    ทริคน่ารู้เมื่อไปแช่น้ำพุร้อน        ในการมาเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนตามสถานที่ต่างๆ นักท่องเที่ยวทุกคนควรที่จะชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อนลงแช่ และไม่ควรแช่นานจนเกินไป ถ้าสังเกตว่าหน้าผากและจมูกมีเหงื่อไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ควรลุกออกมานั่งพักได้แล้ว อย่าปล่อยให้เหงื่อไหลจนใจเต้นแรง เพราะนั่นเป็นสัญญาณที่ไม่ดีต่อร่างกายของเรา   01 | บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน @ลำปาง  อเมซิ่งไทยแลนด์! ไม่ต้องไปแช่น้ำแร่ไกลถึงญี่ปุ่น เพราะที่บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน จ.ลำปาง ก็มีน้ำแร่ที่แสนจะบริสุทธิ์จากธรรมชาติ ให้นักท่องเที่ยวได้มาแช่ตัว แช่เท้า พักผ่อนหย่อนใจในวันสบายๆ ที่บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ แถมที่นี่ยังมีธรรมชาติที่สวยงาม เต็มไปด้วยโขดหินที่มีไอของน้ำพุร้อนลอยล่องขึ้นมาอย่างสวยงาม ต้องบอกเลยว่ามุมนี้ถ่ายรูปสวยสุดๆ อ่านเพิ่มเติม >>    ‘จุด Check Point ห้ามพลาด’     มาบ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อนต้องห้ามพลาดจุด Check Point บริเวณต้มไข่เด็ดขาด เพราะที่นี่มีเมนู ‘ยำไข่แช่น้ำแร่’ เป็นไฮไลท์! นอกจากจะได้สุขภาพที่ดีแล้ว ยังได้ความอิ่มท้องกลับไปอีกด้วย         ที่พักแนะนำใกล้ "บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ลำปาง"     Karpenter Lampang     ลำปาง l      ราคาเริ่มต้น 1,300 บาท/คืน        Baan KUM - ON     ลำปาง l      ราคาเริ่มต้น 1,200 บาท/คืน     คลิกดูโรงแรมอื่นๆ >>   02 | บ่อน้ำพุร้อนเทพพนม @เชียงใหม่       น้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีอุณหภูมิของน้ำสูงถึง 30 ถึง 90 องศา เลยทีเดียว น้ำพุร้อนเทพพนมแห่งนี้ มีบ่อน้ำพุร้อนมากกว่า 15 บ่อ เป็นชนิดบ่อน้ำร้อนและบ่อน้ำซึม เป็นบ่อน้ำพุร้อนเล็กๆ ที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมาก แต่เต็มไปด้วยความเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ ความอบอุ่นทางกายจากน้ำพุร้อน และความอบอุ่นทางใจที่ได้มาเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนสวยๆกับครอบครัวในวันสบายๆ แบบนี้ อ่านเพิ่มเติม >>  ‘จุด Check Point ห้ามพลาด’     บริเวณรอบๆบ่อน้ำแร่ขนาดใหญ่ จะมีพื้นที่สำหรับเดินออกกำลังกาย เพื่อชมบ่อน้ำร้อนตามจุดต่างๆ ซึ่งมีลักษณะเดินรอบเป็นวงกลมระยะประมาณ 400 เมตร สีของบ่อน้ำแร่ตรงกลาง น้ำจะเป็นสีเขียวมรกต ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าเป็นจุด Check Point ที่สวยที่สุดของน้ำพุร้อนเทพพนมเลยล่ะ          ที่พักแนะนำใกล้ "บ่อน้ำพุร้อนเทพพนม เชียงใหม่"     Huean Chaemrath     เชียงใหม่ l      ราคาเริ่มต้น 1,300 บาท/คืน          Kowit Maechaem     เชียงใหม่ l      ราคาเริ่มต้น 2,190 บาท/คืน      คลิกดูโรงแรมอื่นๆ >>       03 | บ่อน้ำพุร้อนสันกำแพง @เชียงใหม่        สถานที่ท่องเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่นักท่องเที่ยวต้องห้ามพลาดเมื่อมาเชียงใหม่! เพราะคุณจะได้เห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติใต้พิภพ ที่พาน้ำร้อนอันเดือดพล่านพุ่งขึ้นสูงถึง 20 – 30 เมตร และความร้อนของน้ำแร่ที่ผุดออกมาจากใต้ดิน มีความร้อนสูงถึง 100 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว อ่านเพิ่มเติม >>  ‘จุด Check Point ห้ามพลาด’      จุดที่ทำให้น้ำพุร้อนสันกำแพงสวยงามไม่เหมือนใครก็คือ การพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าของสายน้ำพุร้อนใต้พื้นดิน และเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่เต็มไปด้วยสวนดอกไม้ที่จัดตามฤดูกาล ทำให้เราได้สูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอดไปพร้อมๆ กับเดินชมความสวยงามไปในตัว            ที่พักแนะนำใกล้ "น้ำพุร้อนสันกำแพง เชียงใหม่ "     The Puka Boutique Resort     เชียงใหม่ l      ราคาเริ่มต้น 3,280 บาท/คืน        Baanpong Lodge     เชียงใหม่ l      ราคาเริ่มต้น 1,920 บาท/คืน      คลิกดูโรงแรมอื่นๆ >>     04 | โป่งน้ำร้อนท่าปาย @แม่ฮ่องสอน       จะฟินแค่ไหน ถ้าได้แช่น้ำแร่ร้อนๆ ท่ามกลางธรรมชาติอย่างขุนเขาและต้นไม้ใหญ่ ในวันที่อากาศเย็นๆ เริ่มเข้ามาทักทาย โป่งน้ำร้อนท่าปาย แลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มักจะแวะเวียนกันมาแช่ตัวกันอยู่บ่อยๆ เพราะความตื่นเต้นอยู่ที่ยิ่งเราเดินลึกเข้าไป อุณหภูมิน้ำก็จะยิ่งร้อนขึ้น ร้อนถึง 80 – 100 องศาเลยล่ะ อ่านเพิ่มเติม >>  ‘จุด Check Point ห้ามพลาด’   นั่งเอาเท้าจุ่มน้ำให้เลือดลมหมุนเวียนไปพร้อมกับการต้มไข่ให้สุกพอดิบพอดี เป็นกิจกรรมที่ขาดไม่ได้เมื่อมาโป่งน้ำร้อนท่าปาย          ที่พักแนะนำใกล้ "โป่งน้ำร้อนท่าปาย แม่ฮ่องสอน"     Pai Village Boutique     แม่ฮ่องสอน l      ราคาเริ่มต้น 2,538 บาท/คืน        Family House Zen Boutique     แม่ฮ่องสอน l      ราคาเริ่มต้น 2,331 บาท/คืน     คลิกดูโรงแรมอื่นๆ >>       05 | น้ำตกร้อนคลองท่อม @กระบี่       ถ้าเงินออมยังไม่หมด! ตามเราไปดูอีกหนึ่งในสถานที่สุด Unseen ของจังหวัดกระบี่อย่าง น้ำตกร้อนคลองท่อม ที่ตั้งอยู่ใน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ซึ่งอยู่ใกล้กับสระมรกต มีลักษณะเป็นสายน้ำตกหลั่งไหลลงมาจากเนินเขา มีอุณหภูมิ 40 – 50 องศา ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะแก่การแช่ตัว คลายความเมื่อยล้าในวันที่แสนเหน็ดเหนื่อยได้เป็นอย่างดี ใครที่ได้มาน้ำตกคลองท่อม นอกจากจะได้สุขภาพที่ดีกลับไปแล้ว ยังได้ความสนุกสนานจากสายน้ำตกกลับไปอีกด้วย อ่านเพิ่มเติม >>    ‘จุด Check Point ห้ามพลาด’      เมื่อเรามาถึงน้ำตกร้อนคลองท่อม ให้เดินเท้าไปอีกประมาณ 400 เมตร เมื่อถึงธารน้ำตกร้อนให้ค่อยๆ จุ่มเท้า แล้วนั่งแช่น้ำตกร้อน ให้สายน้ำที่มีแร่ธาตุต่างๆ ช่วยให้เราผ่อนคลาย บำบัดอาการไขข้ออักเสบ ปวดหลังให้ทุเลาลง           ที่พักแนะนำใกล้ "น้ำตกร้อนคลองท่อม กระบี่"     Wareerak Hot Spring Retreat     กระบี่ l      ราคาเริ่มต้น 3,096 บาท/คืน         Islanda Hideaway Resort     กระบี่ l      ราคาเริ่มต้น 3,250 บาท/คืน      คลิกดูโรงแรมอื่นๆ >>        ช่วงชีวิตของคนเราไม่ได้ยาวนานมากนัก หากมีโอกาสได้ออกไปค้นหาสิ่งใหม่ๆ ให้รีบเดินทางออกไปตามที่ใจตัวเราเองต้องการ แต่ทุกๆ การกระทำควรมีการวางแผนที่ดี โดยเฉพาะในเรื่องของการเงิน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตของแต่ละคน แบ่งเงินออมมาที่กองทุน LTF, RMF หรือประกันชีวิตแบบบำนาญ นอกจากจะมีเงินออมในอนาคตแล้ว ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีในปัจจุบันได้อีกด้วย อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยที่เราพลาดสิ่งดีๆ ในชีวิต จงทำชีวิตให้มีความสุข และให้ความสุขอยู่คู่กับคำว่า "เกษียณ"   >> อ่านแบบประกันประเภทบำนาญ iRetire เพิ่มเติม คลิก! <<     body { overflow-x: visible !important; } @media screen and (max-width:479px){ /* 0px - 479px */ .flip thead{ display:none; /* ตัดหัวข้อของแต่ละคอลัมน์ออกไป */ } .flip td{ display:block; /* กำหนดให้ td เรียงต่อๆ กันในแนวตั้ง */ overflow:hidden; } .flip td:before{ overflow:hidden; display:inline-block; width:50%; content:attr(data-column); /* สร้างหัวข้อโดยเอาข้อมูลมาจาก data-column ของ td นั้นๆ */ font-weight:bold; } }
18 กันยายน 2561
10 ร้านอาหารแนะนำในพัทยา
ไทย

      มาถึง ‘พัทยา’ ทั้งที ต้องลิ้มลองร้านอาหารเจ้าดังกันหน่อยค่ะ ที่นี่มีร้านอาหารซีฟู้ด อาหารไทย และอาหารนานาชาติมากมาย ชนิดที่ว่ามีให้ได้เลือกทานกันทุกแบบทุกสไตล์ มาทำความรู้จักที่นี่ให้มากขึ้น ผ่านมื้ออาหารสุดอร่อย ของเหล่าบรรดาร้านเด็ดที่คุณไม่ควรพลาด!     1.Bali Hai Sunset Restaurant Pattaya     บาลีฮาย ซันเซ็ท.. ร้านเด็ดริมทะเล ตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตา พร้อมฟังเสียงคลื่นกระทบชายฝั่งและชมพระอาทิตย์ตกดินยามเย็นได้บรรยากาศธรรมชาติสุดๆ ในส่วนของเมนูอาหารก็ไม่ธรรมดาค่ะ ปรุงออกมากอย่างลงตัว รสชาติอร่อย หน้าตาดูดี สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของซีฟู้ดทุกคำ รับรองไม่มีผิดหวังแน่นอน   Source: https://www.facebook.com/balihaisunsetpattaya Location:      2.The Glass House Pattaya     ‘The Glass House Pattaya’ ร้านอาหารสบายๆ ริมชายหาดส่วนตัว บรรยากาศดีไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน เพราะมีโซนให้เลือกนั่งหลากหลาย พร้อมชมวิวทะเลรอบด้านจากเรือนกระจก ฟังเพลงแจ๊สเบาๆ เคล้าอาหารมื้ออร่อย ยิ่งช่วงกลางคืน ยิ่งแสนจะโรแมนติก เหมาะแก่การพาคู่รักมานั่งดื่มไวน์และทานอาหารทะเล อิ่มแล้วก็ชวนกันนั่งนับดาวริมชายหาด ท่ามกลางแสงไฟสลัว เมนูแนะนำ: ปลาหมึกไข่ทอดราดกระเทียมพริกไทย, ปลาเก๋านึ่งราดซีอิ๊วปรุงรส, ลาเวเค้ก เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมวานิลา เปิด: ทุกวัน 11.00 – 24.00 น. Source: http://www.glasshouse-pattaya.com Location:      3.The View Beach Bar & Restaurant Source: https://www.facebook.com/TheViewBeachBarRestaurant     อีกหนึ่งร้านที่วิวดีสมชื่อ ‘The View Beach Bar and Restaurant’ ร้านสุดเก๋ที่เนรมิตที่นั่งริมทะเลสุดชิลล์บนชายหาด ให้คุณและคู่รักได้สัมผัสบรรยากาศริมทะเลอย่างใกล้ชิด พร้อมเมนูซีฟู้ดฟิวชั่นและมุมถ่ายรูปสวยๆ ที่ให้คุณได้ฟินกันตลอดทั้งคืน เมนูแนะนำ: ปลากะพง, กั้งผัดพริกเกลือ, Pink Delight Cocktail Source: http://www.tnews.co.th Location:        4.Sense of the sea     ‘Sense of the sea’ คู่รักที่อยากนั่งชิลล์ริมชายหาด สัมผัสบรรยากาศดีๆ ชมวิวและพระอาทิตย์ตกดิน เคล้ากับเสียงเพลงและอาหารสุดอร่อย ที่นี่ไม่ว่าจะนั่งมุมไหนก็รู้สึกโปร่งโล่ง เนรมิตเมนูอาหารไทยและอาหารนานาชาติ และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ และค็อกแทลให้เลือกสรรมากมาย เมนูแนะนำ: ห่อหมกมะพร้าวอ่อน, ต้มยำกุ้ง, สปาเกตตี้กุ้งแม่น้ำ, Cocktail Sense of the sea สูตรเฉพาะของทางร้าน Source: https://www.wongnai.com Location:      5.Mantra Restaurant & Bar     สัมผัสความหรูหราและมีสไตล์ ที่ตกแต่งหลากหลายวัฒนธรรมและเชื้อชาติ ‘Mantra Restaurant & Bar’ ที่สุดของร้านอาหารที่เหมาะกับโอกาสพิเศษสำหรับคุณและคนรัก เพื่อดื่มด่ำการฉลองในบรรยากาศสวยๆ ดินเนอร์ใต้แสงเทียน ที่สำคัญอาหารยังอร่อยและมีหลายสไตล์ทั้งจีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น, ไทย และเมดิเตอร์เรเนียนฟู้ด การตกแต่งแต่ละจานออกมาดูน่ารับประทานสุดๆ เมนูแนะนำ: Chicken Tikka Maki, Codfish Saltimbocca with Aflantic cod wrapped in parma ham เปิด: ทุกวัน 17.00 – 01.00 น. Source: https://www.facebook.com/mantra.pattaya Location:      6.ริมผาลาภิน       ใกล้กับสวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์คมีร้านอาหารขึ้นชื่อ นักท่องเที่ยวนิยมมาทานกันมาก โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ร้านที่ว่าคือ ‘ริมผาลาภิณ’ ร้านอาหารบรรยากาศหรูสไตล์ไทยล้านนา ตัวร้านสร้างบนเรือนไม้ใต้ถุนสูง จัดแบ่งโซนพื้นที่เป็นสัดส่วน ทั้งโซนบ้าน ริมหาด หรือในสวน พร้อมด้วยอาหารไทย ซีฟู้ด ยุโรป ที่ใครมาทานต่างก็ต้องติดใจ เมนูแนะนำ: ปลากะพงทอดน้ำปลา, ปูนิ่มทอดกระเทียมพริกไทย, ยำปูม้าสด, ปูผัดผงกะหรี่ เปิด: จ-ศ 16.00 – 24.00 น. / ส-อา 14.00 – 24.00 น. Source: http://www.tnews.co.th Location:        7.มุมอร่อยนาเกลือ     ‘ร้านมุมอร่อย’ ร้านอาหารทะเลที่อร่อยสมชื่อค่ะ การตกแต่งเน้นสบายๆ ให้ความรู้สึกดี ร่มรื่นด้วยต้นไม้และลมเย็นจากไอทะเล มีสระว่ายน้ำอยู่กลางร้าน นั่งทานอาหารซีฟู้ด พร้อมฟังเสียงน้ำทะเลกระทบฝั่ง ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก ไม่ว่าจะมาอีกกี่ครั้งก็ไม่เบื่อเลยค่ะ เมนูแนะนำ: ส้มตำปูม้า, ส้มตำปลากะพง, ปลากะพงทอดราดน้ำปลา, กั้งกระดานทอดกระเทียม, กุ้งแม่น้ำสะดุ้งไฟ, ปลาหมึกผัดไข่เค็ม, ยำตะไคร้ฟู เปิด: ทุกวัน 11.30 – 23.00 น. Location:      8.ปูเป็น     ร้านซีฟู้ดอันเลื่องชื่อของเมืองพัทยา ใครมาพัทยาก็ต้องมาลิ้มลองความอร่อยกันค่ะ โดดเด่นเรื่องรสชาติและบรรยากาศทะเล๊ทะเล นอกจากนี้ที่นี่ยังร่ำลือถึงความสดใหม่ของอาหาร รวมถึงความอร่อยที่ได้ทานแล้วจะต้องติดใจ เมนูแนะนำ: เมนูปูทุกชนิด, ปลากะพงทอดน้ำปลา, ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว, กุ้งเผา เปิด: 09.30 – 22.30 น. Source: http://gis.pattaya.go.th Location:      9.Sketch Book Art Café     ร้านอาหารและกาแฟแสนร่มรื่น เพียงแค่เข้ามาก็สัมผัสได้ถึงธรรมชาติในแบบที่คาดไม่ถึงว่าจะมีร้านเช่นนี้ใจกลางเมืองพัทยา สิ่งที่โดดเด่นคือการตกแต่งที่ดูสบายเหมือนบ้าน ประดับประดาด้วยงานศิลปะและต้นไม้เขียวขจี ภายในร้านมีมุมสอนวาดภาพ พร้อมอุปกรณ์ไว้ให้ครบ เหมาะสำหรับหนุ่มสาวผู้มีใจรักศิลปะ   Source: https://www.facebook.com/Sketch-BOOK-Art-cafe Location:      10.The Sky Gallery     ปิดท้ายด้วยร้านอาหารบรรยากาศดีเว่อร์ ด้านหลังโรงแรมโคซี่บีช พัทยา ภายในร้านเป็น Open Air ทั้งหมด ให้คุณได้นั่งรับประทานอาหารริมหาดทราย โดยมีวิวสวยของน้ำทะเลใส ท้องฟ้ากว้างเป็นจุดพักสายตา ไม่ว่าจะนั่งมุมไหนของร้านก็สวยไม่มีใครยอมใคร โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตก ภาพตรงหน้าเรียกว่าสวยจนเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมจริงๆ   Source: http://www.painaidii.com Location:     ร้านอาหารแนะนำอื่นๆ ที่น่าสนใจ 
31 พฤษภาคม 2561
10 สถานที่เที่ยวแนะนำในพัทยา
ไทย

    หากจะพูดถึงเมืองที่ฮิตที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติ คงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘พัทยา’ เมืองที่แวดล้อมด้วยท้องทะเลสวยงาม ชายหาด วิถีชีวิตแสนคึกคัก รวมถึงแหล่งบันเทิงและโรงแรมที่ถูกใจนักท่องเที่ยวมากมาย วันนี้เราขอแนะนำ 10 ที่เที่ยวยอดฮิตที่มาพัทยา แล้วไม่ควรพลาดจริงๆ      ไร่องุ่น Silver Lake     สำหรับคู่รักที่มีแพลนฮันนีมูน แต่ยังไม่รู้จะไปที่ไหน ขอแนะนำ ‘Silverlake Wine & Grill’ ไร่องุ่นชวนฝันอันโด่งดัง รายล้อมด้วยบรรยากาศสไตล์อิตาลี แต่เดินทางใกล้ๆ แค่พัทยาเท่านั้น ที่นี่มีห้องอาหารสุดหรูดูโรแมนติก ตกแต่งคลาสสิกสุดๆ พร้อมเพลงบรรเลงเบาๆ โอบล้อมด้วยทัศนียภาพของไร่องุ่น และวิวพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น นอกจากนี้ยังสามารถเลือกซื้อองุ่น และผลิตภัณฑ์แปรรูปมากมาย ทั้งน้ำองุ่น, แยมองุ่น, ลูกเกด   Source: https://www.facebook.com/silverlakethai Location:         เมืองจำลองพัทยา Source: http://www.thaihrhub.com     ถ่ายรูปกับหอไอเฟล แวะมาเที่ยวหอเอนปิซ่า และบินไปอังกฤษ ทักทายเทพีเสรีภาพ ปิดท้ายด้วยพิรามิดอียิปต์ ทั้งหมดที่พูดมามีให้คุณได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดที่พัทยาค่ะ ‘เมืองจำลอง’ เค้ารวบรวมแลนด์มาร์กและมรดกโลกอันงดงามไว้อย่างครบถ้วน รวมถึงสถาปัตยกรรมและแลนด์มาร์กของไทยด้วยเช่นกัน Location:         ปราสาทสัจธรรม     ‘ปราสาทสัจธรรม’ ปราสาทไม้แกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย งดงามสมคำร่ำลือ ถือเป็น Dream Drestination ของนักท่องเที่ยวทุกคนที่อยากมาสัมผัสสถาปัตยกรรมชั้นยอด มีลวดลายแกะสลักวิจิตรพิสดารทั้งภายในและภายนอก สะท้อนแนวคิดเชิงศาสนาและปรัชญาตะวันออก นอกจากนี้ยังมีการแสดงอื่นที่น่าสนใจอีกมาย ทั้งการแสดงโลมา, ศิลปวัฒนธรรมไทย รำไทย ฟันดาบ มวยไทย นั่งช้างชมปราสาท นั่งเรือออกไปชมปราสาทในระยะไกล ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 450฿ / เด็ก (110-140 ซม.) 225฿ (*ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้) เปิด: ทุกวัน 08.00 – 17.00 น. Source: www.sanctuaryoftruth.com Location:         หาดจอมเทียน     ไฮไลท์อันดันต้นของพัทยา แต่เดิมชื่อ ‘หาดดงตาล’ เพราะมีต้นตาลเรียงรายตลอดแนว หาดทรายาวสะอาด แต่ตัวชายหาดค่อนข้างแคบค่ะ มีถนนร่มรื่นเลียบชายหาดให้คุณขับรถผ่านชมวิวเพลินๆ เป็นชายหาดที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาตินิยมมาพักผ่อนกันที่นี่ มีโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และกิจกรรมทางน้ำอื่นๆ ไว้คอยบริการตลอดวัน Location:         จุดชมวิวเขาพระตำหนัก Source: http://travel.kapook.com       จุดชมวิวพัทยาที่สวยที่สุด ตั้งอยู่บนภูเขาที่คั่นระหว่างหาดพัทยาใต้กับหาดจอมเทียน โดยบนยอดเป็นที่ตั้งของวัดเขาพระบาท อนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ นักท่องเที่ยวนิยมมาสักการะ ชมพระอาทิตย์ลับของฟ้ายามเย็น และมองแสงไฟระยิบระยับของเมืองพัทยาจากมุมสูง Location:         Pattaya Walking Street     ถนนคนเดินเมืองพัทยา หรือที่รู้จักกันในนาม ‘Walking Street Pattaya’ ถนนสายบันเทิง มากไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จนเรียกกันติดปากว่า ‘International meeting street’ ในช่วงกลางวันถนนสายนี้มีรถวิ่งกันปกติค่ะ แต่ 18.00 น. เป็นต้นไปจะถูกเนรมิตให้กลายเป็นถนนแห่งแสง สี เสียง ต่างกันโดยสิ้นเชิง เต็มไปด้วยเบียร์บาร์ อะโกโก้ ไนต์คลับ ดิสโกเธค ร้านอาหาร ร้านค้า และโชว์ต่างๆมากมาย นับเป็นอีกหนึ่งสีสันของเมืองพัทยาที่ขาดไม่ได้ไปแล้วค่ะ     Source: http://www.pictures-thailand.com Location:         เกาะล้าน Source: http://travel.kapook.com     สำหรับคนที่อยากเที่ยวเกาะ แต่ไม่อยากเดินทางไกลและมีเวลาจำกัด เกาะล้านคือคำตอบที่ดีมากทีเดียวค่ะ เพราะนั่งเรือโดยสารเพียง 45 นาทีก็ถึงแล้ว ที่นี่มีชายหาดสวยงาม เล่นน้ำดูปะการัง กีฬาทางน้ำ โดยชายหาดบนเกาะนี้ล้วนมีความเป็นส่วนตัว แถมยังเป็นแหล่งฝึกเรียนดำน้ำอีกด้วยนะ Location:         เขาชีจรรย์ Source: http://travel.kapook.com     สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของเหล่านักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวจีน ต่างก็มาชื่นชมความงดงามของพระพุทธรูปแกะสลักด้วยแสงเลเซอร์บนหน้าผาเขาชีจรรย์ บริเวณโดยรอบตกแต่งเป็นสวนพักผ่อนหย่อนใจ เปิด: ทุกวัน 06.00 – 18.00 น. Tips: ควรแต่งกายสุภาพ งดส่งเสียงดัง และปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด Location:         Mimosa Pattaya     ‘Mimosa Pattaya’ อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวยอดฮิตของเมืองที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวไว้อย่างล้นหลาม ที่นี่เปรียบได้กับ ‘เมืองแห่งความรัก’ ก้าวเข้ามาด้านในก็ได้กลิ่นอายของสถาปัตยกรรมเมืองโบราณของฝรั่งเศส โดดเด่นด้วยสีสันสดใส โอบล้อมด้วยบรรยากาศโรแมนติก พร้อมร้านอาหาร ร้านค้า และโชว์ต่างๆมากมาย กลายเป็น The City of Love ประจำพัทยาที่อบอุ่นและมีเสน่ห์น่าเที่ยวจริงๆค่ะ   เปิด: ทุกวัน 10.00 – 22.00 น. Location:         สวนนงนุช     ‘สวนนงนุช’ สถานพักผ่อนหย่อนใจที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก ภายในมีสวน บ้านทรงไทย สวนไม้ดอก ไม้ประดับนานาชนิด สวนกล้วยไม้ สวนกระบองเพชร และอีกมากมาย ภายใต้แนวคิด ‘จัดสวนให้คนมาเที่ยว’ ดังนั้นสวนของที่นี่จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลค่ะ นอกจากสวนแล้ว ยังมีศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมไทยสำหรับนักท่องเที่ยว ฟ้อนรำพื้นเมือง ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว กีฬาพื้นเมือง ทำให้ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับแนวหน้า ใครมาพัทยาแล้วไม่มาเที่ยวถือว่ามาไม่ถึงนะคะ Tips: แนะนำว่าควรมาแต่เช้า เพราะเดินแล้วอากาศจะไม่ร้อนค่ะ :) Location:     แหล่งท่องเที่ยวแนะนำอื่นๆ ที่น่าสนใจ   
31 พฤษภาคม 2561
10 ร้านอาหารแนะนำในเขาใหญ่
ไทย

    มาถึง ‘เขาใหญ่’ ทั้งที ต้องลิ้มลองร้านอาหารเจ้าดังกันหน่อยค่ะ ที่นี่มีร้านอร่อยมากมาย ชนิดที่ว่ามีให้ได้เลือกทานกันทุกแบบทุกสไตล์ ทั้งของหวาน ของคาว รวมถึงร้านกาแฟก็เด็ดไม่แพ้กัน มาทำความรู้จักที่นี่ให้มากขึ้น ผ่านมื้ออาหารสุดอร่อย ของเหล่าบรรดาร้านเด็ดที่คุณไม่ควรพลาด!     1. The Chocolate Factory     แดนสวรรค์ของคนรักช็อคโกแลต ที่นี่เป็นร้านน้องใหม่ที่กำลังมาแรง โดดเด่นด้วยการออกแบบแนวสโมคเฮ้าส์ มีกระจกกั้น ทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ด้านนอกได้อย่างชัดเจน บรรยากาศดูอบอุ่น ได้กลิ่นอายโรงงานนิดๆ เสิร์ฟช็อคโกแลตสดใหม่ทุกวัน จากฝีมือเชฟชาวฝรั่งเศสผู้เชี่ยวชาญ       Location:       2. Dairy Home     ร้านดังในตำนานที่ขึ้นชื่อเรื่องไอศกรีมโฮมเมดและโยเกิร์ตนมจากฟาร์มออร์แกนิกปลอดสาร พร้อมเมนูสเต็กสูตรใหมที่โดนใจนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย พร้อมผลิตภัณฑ์ปลอดสารและเบเกอรี่สดใหม่ เหมาะกับคนรักสุขภาพเป็นที่สุด   Location: ​      3. Big Mount Khaoyai     หรือ ‘ครัวภาคกลาง’ ร้านอาหารบรรยากาศโมเดิร์นสไตล์ ท่ามกลางขุนเขาและสายหมอก มีทั้งแบบโอเพ่นแอร์และแบบห้องแอร์ด้านใน เหมาะสำหรับครอบครัวพากันมารับประทานอาหารร่วมกัน เมนูของทางร้านเน้นความแปลกใหม่ รสชาติอร่อยแบบต้นตำรับ ได้ทานแล้วต้องติดใจอย่างแน่นอน   Location: ​      4. ร้านครัวผู้ใหญ่ลี ร้านอาหารไทยภายในภูภัทรา รีสอร์ท เน้นบรรยากาศสบายๆ ล้อมรอบด้วยธรรมชาติและขุนเขา ภายในดีไซน์แบบเปิดโล่งรับลมเย็น บรรยากาศเป็นกันเอง เมนูอาหารของทางร้านมีทั้งอาหารไทย อาหารอีสาน และอาหารนานาชาติ การันตีคุณภาพและความอร่อยจากนักท่องเที่ยวที่กลับมาทานอีกเรื่อยๆ Location: ​      5. ครัวน่านน้ำ     ร้านอาหารบรรยากาศสบายริมน้ำ เปิดให้บริการมานานกว่า 25 ปี มีเมนูอาหารไทย อาหารจีน และอาหารอีสานคุณภาพ ตกแต่งสไตล์คันทรี เหมาะแก่การรับประทานอาหารในวันหยุดพักผ่อนกับครอบครัว   Location: ​      6. บ้านไม้ชายน้ำ     ร้านอาหารเจ้าดังในเขาใหญ่ วิวสวยริมน้ำ เหมาะแก่การถ่ายภาพสุดประทับใจ ร้านนี้เกิดจากความรักในการสะสมของเก่าของเจ้าของร้าน ให้คุณเพลิดเพลินคล้ายกับการเดินชมพิพิธภัณฑ์ ภายในมีบรรยากาศตกแต่งสวยงาม พร้อมเมนูแสนอร่อยถูกปากนักท่องเที่ยวจริงๆค่ะ   Location: ​      7. Yellow Submarine     ร้านกาแฟสุดชิคที่มีบรรยากาศกลมกลืนไปกับธรรมชาติโดยรอบ ตกแต่งแบบ Open Air เปิดโล่ง มองเห็นวิวทิวทัศน์ในระยะไกล มีภูเขาอยู่เบื้องหลัง ด้านหลังเป็นบาร์แบบสวนเปิดโล่งเช่นกัน ให้คุณได้จิบกาแฟและสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่ หรือถ้าอยากหลบร้อน ทางร้านก็มีมุมห้องแอร์ไว้บริการเช่นกันค่ะ   Location: ​      8. Mew Khaoyai     คาเฟ่เปิดใหม่ท่ามกลางบรรยากาศสวนสวย ให้บริการเมนูขนม เครื่องดื่ม และอาหารสไตล์โฮมเมดที่ใส่ใจในวัตถุดิบ โดยเฉพาะเมนูกาแฟที่คัดสรรเมล็ดกาแฟ Blend สูตรเฉพาะ และเมนูชาที่คัดเลือกใบชาจากต้นตำรับท้องถิ่น นอกจากนี้ทางร้านยังจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ร่วมสร้างความสุข พร้อมมุมของขวัญของฝากไว้บริการด้วย   Location: ​      9. ยุ้งข้าว เขาใหญ่     ร้านอาหารบริการอาหารไทยสุดอร่อยและน่าทานมาก ตกแต่งแบบธรรมชาติแฝงไว้ซึ่งความทันสมัย เหมาะสำหรับการนั่งรับประทานอาหารกับครอบครัว เมนูอาหารไทยทุกจานได้รับการคัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดี นอกจากนี้คนรักอาหารใต้ต้องไม่พลาด เพราะทางร้านมีบริการอาหารใต้รสจัดเข้มข้นไว้เอาใจนักชิมอีกด้วย   Location: ​      10. ครัวกำปั่นเขาใหญ่     บ้านทรงไทยสวยงาม ท่ามกลางความร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ภายในแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกัน ทั้งด้านในแอร์เย็นฉ่ำและรับลมเย็นๆ ที่ระเบียง เมนูอาหารของทางร้านเน้นอาหารไทย-อีสานรถแซ่บ บรรยากาศแบบไทยๆ ในราคาเป็นกันเองแบบนี้ รับรองว่าได้มาแล้วจะต้องติดใจ   Location: ​     ร้านอาหารอื่นๆ 
28 พฤษภาคม 2561
10 ร้านอาหารแนะนำในกระบี่
ไทย

    มาถึง ‘กระบี่’ ทั้งที ต้องลิ้มลองร้านอาหารเจ้าดังกันหน่อยค่ะ ที่นี่มีร้านอาหารซีฟู้ด อาหารไทย อาหารนานาชาติและของหวานมากมาย ชนิดที่ว่ามีให้ได้เลือกทานกันทุกแบบทุกสไตล์ มาทำความรู้จักที่นี่ให้มากขึ้น ผ่านมื้ออาหารสุดอร่อย ของเหล่าบรรดาร้านเด็ดที่คุณไม่ควรพลาด!    ร้านอาหารเรือนไม้     อีกร้านอาหารขึ้นชื่อในเมืองกระบี่ ที่ได้รับการการันตีจากนักชิมมากประสบการณ์ในแวดวงอาหารกว่า 25 ปี ภายในตกแต่งสวยงามด้วยวัสดุท้องถิ่น เสิร์ฟอาหารปักษ์ใต้รสจัดจ้าน กลมกล่อม ถูกปากนักท่องเที่ยวมากนักต่อนักแล้วค่ะ เมนูแนะนำ: ปลาอินทรีย์ทอดซีอิ๊ว, คั่วกลิ้งเนื้อ, น้ำพริกกุ้งเสียบ, สะตอผัดกุ้ง เปิด: 10.30 – 15.00 น. / 17.00 – 22.00 น. Source: www.edtguide.com ‘ร้านเรือนไม้’ หมู่3 อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ Location:       ร้านอัญชลี Source: https://www.facebook.com/anchalirestaurant     ร้านอาหารปักษ์ใต้ใจกลางเมืองบรรยากาศร่มรื่น เหมาะสำหรับครอบครัวมานั่งรับประทานอาหารสังสรรค์กัน เมนูเด็ดของทางร้านรสชาติจัดจ้านทั้งอาหารไทยและอาหารปักษ์ใต้ ใครมากระบี่แล้วแนะนำว่าต้องมาลิ้มลองกันให้ได้นะคะ เมนูแนะนำ: แกงส้มปลากะพงยอดมะพร้าว, สะตอผัดกุ้ง, ยำถั่วพลู, น้ำพริกกุ้งเสียบ เปิด: ทุกวัน 10.30 – 15.00 น. / 17.00 – 22.00 น. ‘ร้านอัญชลี’ ถนนมหาราช ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ Location:       เกาะกลางซีฟู้ด     เที่ยวกันจนเหนื่อย มาลุยกันต่อกับร้านที่สาม ‘เกาะกลางซีฟู้ด’ ร้านอาหารท่ามกลางธรรมชาติของท้องทะเล ให้คุณได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวประมง และลิ้มรสชาติอาหารทะเลสดๆ ที่ทางร้านคัดสรรมาเป็นอย่างดี บรรยากาศของร้านลมเย็นสบาย อาหารทุกจานรสชาติจัดจ้าน อร่อยถูกใจ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านที่ต้องมาลองให้ได้ เมื่อมาเที่ยวกระบี่นะคะ   Source: www.edtguide.com ‘เกาะกลางซีฟู้ด’ หมู่1 คลองประสงค์ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ เปิด: ทุกวัน 09.00 – 21.00 น. Location:       วังทรายซีฟู้ด     ร้านเด็ดร้านสุดท้ายของวันนี้ ต้องยกให้ ‘วังทรายซีฟู้ด’ ร้านอาหารทะเลริมชายหาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนาง ตกแต่งอย่างเป็นธรรมชาติ ร่มรื่น รับลมเย็นจากทะเลได้อย่างเต็มที่ พร้อมชมวิวทะเลสีฟ้าใสและชมพระอาทิตย์ตกดินในบรรยากาศสุดโรแมนติก เมนูอาหารรสชาติอร่อย จัดจ้าน เต็มอิ่มกับเมนูไทยและอาหารทะเลสดใหม่ เมนูแนะนำ: ปลาเก๋า, กุ้งมังกรเผาเนยกระเทียม, กุ้งแช่บ๊วยผัดซอสมะขาม, ปูผัดพริกไทยดำ เปิด: ทุกวัน 10.30 – 23.30 น. Source: http://www.wangsaiseafood.com / https://www.wongnai.com/restaurants   ‘วังทรายซีฟู้ด’ หาดนพรัตน์ธารา ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ Location:       โกจ้อย ขนมจีนและไก่ทอด Source: http://travel.sanook.com     ร้านขนมจีนขึ้นชื่อและเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองกระบี่มาอย่างยาวนานหลายสิบปี เส้นขนมจีนทำสดใหม่ทุกวัน รสชาติเข้ากับแกงใต้อย่างลงตัว ทานคู่กับไก่ทอดเพิ่มดีกรีความอร่อย แนบด้วยผักสดเครื่องเคียงมากมาย นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ต่างแวะเวียนมาพิสูจน์ความอร่อยแบบต้นตำรับกันที่นี่ ‘โกจ้อย ขนมจีนและไก่ทอด’ เปิด: 06.00 – 13000 น. อ.เหนือคลอง บริเวณสี่แยก ข้างธนาคาร CIMB Location:       กุลากาสัย Source: http://www.thailovetrip.com     ร้านอาหารริมน้ำบรรยากาศไทย เปิดโล่งรับอากาศสบายๆ เหมาะสำหรับนั่งรับประทานอาหารเป็นครอบครัว หรือเลี้ยงรับรองแขก เมนูของทางร้านเน้นอาหารพื้นบ้านและอาหารปักษ์ใต้รสจัดจ้าน ราคาเป็นกันเอง เมนูแนะนำ: กุ้งอบกุลา, กุ้งอบวุ้นเส้น, กุ้งเผา, ปลาสามรส, ต้มส้มปลากระบอก เปิด: 17.00 – 24.00 น. ‘กุลากาสัย’ หมู่6 เลียบคลองชลประทาน ถนนเพชรเกษม อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ Location:       แล แล กริว สไปซ์ ซีฟู้ด (Lae Lay Grill Spice Seafood) Source: www.edtguide.com     ใครชอบบรรยากาศโรแมนติกต้องแวะที่นี่เลยค่ะ ที่นี่เสิร์ฟอาหารซีฟู้ดรสเลิศ พร้อมชมวิธีการทำจากครัวเปิด มองออกไปจากในตัวร้านยังสามารถชมวิวทะเลกระบี่ได้อย่างเต็มสายตา ยิ่งยามพระอาทิตย์ตกดินด้วยแล้ว รับรองว่าวิวที่นี่กินขาดร้านอื่นๆ แน่นอนค่ะ เมนูแนะนำ: ปูนิ่มคั่วพริกเกลือ, แซลม่อนแซ่บ, ทะเลรวมมิตร เปิด: ทุกวัน 11.00 – 22.00 น. ‘แล แล กริว สไปซ์ ซีฟู้ด’ หมู่3 ถนนคลองแห้ง ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ Location:       คารามาโล เรสโต Source: http://www.chillpainai.com     ร้านอาหารอิตาเลี่ยนผสมผสานความเป็นไทย ฮิตมากในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ด้วยสไตล์อาหารที่เนรมิตความเป็นไทยเข้าไว้กับอิตาเลี่ยน ทำให้เมนูของทางร้านถูกปากคนไทย โดนใจชาวต่างชิ ตอบโจทย์ลูกค้าทุกประเภทค่ะ เมนูแนะนำ: พิซซ่าแกงเขียวหวาน, พิซซ่ามัสมั่น เปิด: 10.00 – 23.00 น. ‘คารามาโล เรสโต’ Location:       ร้านอาหารบ้านมะหญิง Source: https://www.wongnai.com     ร้านซีฟู้ดในหมู่บ้านเกาะกลาง สะท้อนวิถีชีวิตและรูปแบบของชุมชน บรรยากาศดีริมน้ำ มองเห็นวิวทิวทัศน์และป่าชายเลนโดยรอบ สร้างสรรค์เมนูอร่อย ดึงรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นออกมา ผ่านมื้ออาหารสุดอร่อยและวัตถุดิบคุณภาพจากกระชังปลาของทางร้าน เมนูแนะนำ: กุ้งซอสมะขาม, แกงส้มปลาเก๋า, ปูผัดออริกาโน่ เปิด: ทุกวัน 9.00 – 21.00 น. ‘ร้านอาหารบ้านมะหญิง’ หมู่10 ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ Location:       Why Not Bar Source: https://www.facebook.com/WhyNotBarKohLanta     บาร์สุดฮิปที่ฮอตและคึกคักที่สุดริมหาดบากันเตียง ที่มีความชิลล์เฉพาะตัวและเป็นกันเองสุดๆ จนทำให้หลายคนหลงรักเข้าอย่างจัง บวกดนตรีสดที่มีให้ฟังเพลินๆ ทุกคืน พร้อมคั่นด้วยกระบองไฟ ยิ่งทำให้ลูกค้าหลั่งไหลกันมาอย่างไม่ขาดสาย จนกลายเป็นขาประจำไปในทันที ‘Why Not Bar’ ริมหาดบากันเตียง ใกล้กับพระนางลันตา เปิด: 21.00 – 24.00 น. Location:      Don’t Miss! ร้านโตเกียว ตลาดเจ้าฟ้า Source:http://pantip.com ร้านขนมโตเกียวและขนมเบื้องสูตรเด็ด ไส้เผือกและสังขยา แป้งนุ่ม ไส้หวานอร่อย ส่วนขนมเบื้องก็หวานกรอบ เหมาะสำหรับเดินทานเพลินๆ พร้อมเดินเล่นในตลาดโต้รุ่งท่าเรือเจ้าฟ้าอันแสนคึกคัก ‘ร้านโตเกียวตลาดเจ้าฟ้า’ เปิด: 17.30 – 22.00 น. Location:    ไอติมเจ๊ไหม (J Mai Ice-cream Krabi Jao-fah Night Market) Source: https://www.wongnai.com ภายในตลาดมีร้านไอศกรีมเจ้าดัง เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวรวมถึงคนในพื้นที่ นั่นคือ ‘ไอศครีมเจ๊ไหม’ ร้านไอศกรีมที่อยู่คู่กับเมืองกระบี่มากว่า 40 ปี มีด้วยกัน 2 รสชาติ กะทิสดกับช็อคโกแลต รสชาติหอมหวาน ราคาถ้วยละ 25-30 บาทเท่านั้นค่ะ แต่ขอบอกว่าต้องรีบมาหน่อย เพราะของหมดเร็วมาก ช้าหมด อดทานนะจ้ะ ‘ไอติมเจ๊ไหม’ เปิด: 17.30 – 22.00 น. Location:     ร้านอาหารแนะนำอื่นๆ 
28 พฤษภาคม 2561
5 เคล็ดลับ ช่วย Save เงินในกระเป๋าให้เที่ยวยาวได้ถึงปีหน้า
ไทย

 Smart Traveler เที่ยวไทยแบบฉลาด  5 เคล็ดลับช่วย Save เงินในกระเป๋าให้เที่ยวยาวได้ถึงปีหน้า      ช่วงเวลา 2 เดือนสุดท้ายก่อนสิ้นปี การท่องเที่ยวในเมืองไทยกำลังเริ่มคึกคัก เหล่านักท่องเที่ยวทั้งหลายเริ่มต้นวางแผนการท่องเที่ยวบ้างรึยังคะ? ถ้ายัง...เรามีเทคนิคดีๆ 5 ข้อมาแนะนำตัวช่วยเซฟเงินในกระเป๋าให้เที่ยวได้เพลินๆถึงปีหน้า แถมมีตังค์ไปเที่ยวต่อได้อีก :) • ใบเสร็จรับเงินอย่าทิ้งนะ นำไปลดหย่อนภาษีได้ 100% ไม่ว่าจะใบเสร็จค่าที่พัก หรือแพ็กเกจทัวร์จากการท่องเที่ยวในประเทศไทย สามารถนำไปลดหย่อนภาษีประจำปีได้ถึง 100% เลยทีเดียว (ไม่เกิน 15,000฿ ต่อปีนะจ้ะ) แค่ยื่นใบเสร็จพร้อมแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเท่านั้น more>> • อย่าลืมซื้อประกันอุบัติเหตุล่วงหน้านะจ๊ะ ไปเที่ยวทั้งทีอย่าลืมดูแลเรื่องความปลอดภัยกันด้วยนะคะ ทำประกันอุบัติเหตุไว้ล่วงหน้าช่วยให้คุณเที่ยวได้อย่างมั่นใจ แถมสบายใจสุดๆ ด้วยความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ เจ็บตัวแต่ไม่เจ็บกระเป๋า เพราะไม่ต้องสำรองจ่าย เหลือเงินเก็บไว้เที่ยวต่อได้สบาย • จองโรงแรมให้ได้ราคาที่ถูกที่สุด ยุคดิจิตอลออนไลน์สมัยนี้ทำให้เราสามารถจองห้องพักได้สะดวกขึ้น แต่ถึงอย่างไรเรื่องราคาก็สำคัญที่สุด เราขอแนะนำเทคนิคเล็กน้อยเพื่อให้ได้ราคาห้องพักในราคาที่ถูกที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ • วางแผนการท่องเที่ยว (จุดหมายปลายทาง / ระยะเวลา / จำนวนคน / งบประมาณ) • เลือกเว็บไซต์จองโรงแรมที่น่าเชื่อถือ • ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง (ยิ่งใกล้แหล่งท่องเที่ยวยิ่งดี) • เลือกช่วงเวลาเดินทางให้ถูก (เลี่ยงช่วงไฮซีซั่นและวันหยุดยาว เพราะห้องพักจะราคาสูงกว่าเรทปกติ) • เลือกห้องพักให้เหมาะสม (ถ้าไปหลายคน จองห้องใหญ่ ราคาจะถูกและประหยัดกว่า) • เช็คบริการเสริมและค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม (แนะนำโรงแรมมี Wifi & อาหารเช้า ราคาบวกอีกนิดหน่อยแต่คุ้มกว่าเยอะ) • ถ้าจองผ่านเว็บไซต์อย่าลืมเช็คโปรโมชั่นห้องพักลดราคา (บางครั้งถูกกว่าครึ่งต่อครึ่ง)  จองโรงแรมราคาพิเศษกับเราได้ที่นี่   • วางแผนเรื่องอาหารล่วงหน้า อาหารเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่ราคาแพง แต่ถ้าจะให้ตัดไปเลยคงเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ แต่เราสามารถหาทางออกที่รอบคอบและกินอิ่มครบ 3 มื้อแบบสบายๆ • เลือกบ้านพักที่มีครัว สะดวกในการทำอาหารทานเอง • เตรียมน้ำดื่มและขนมไปเอง (เพราะตามสถานที่ท่องเที่ยวราคาค่อนข้างสูง) • ซื้อหรือจองส่วนลดผ่านเว็บไซด์ (ex. Groupon.com) จะได้ส่วนลดในราคาถูกกว่าร้านค้าทั่วไป • เลือกร้านจัดโปรโมชั่นมื้อกลางวัน (โดยเฉพาะฟาสต์ฟู้ด ชอบมีโปรโมชั่นซื้อ 2 แถม 1) • แพ็กขนมไว้กินระหว่างทาง • จริงจังกับการจัดงบประมาณ การท่องเที่ยวแต่ละครั้งควรกำหนดงบประมาณให้แน่นอน เพื่อจะได้แบ่งค่าใช้จ่ายต่างๆให้ครบและเป็นไปตามแผนที่วางไว้นะคะ วิธีง่ายที่สุดคือแบ่งเงินแต่ละวันใส่ซองแยก 1 วัน 1 ซอง นอกจากช่วยจัดการงบได้อย่างดีแล้ว ยังช่วยให้รู้ตัวทุกการจับจ่ายอยู่เสมอ (เงินในซองหมด ก็หยุดแค่นั้น!)  Special Tips: หลีกเลี่ยงการใช้บัตรเครดิต (ถ้าไม่จำเป็น) ใช้เงินสดช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้รัดกุมกว่าแน่นอนค่ะ :)   • • 5 สุดยอดเคล็ดลับ ช่วยให้เงินในกระเป๋าไม่รั่วไหลจากไปก่อนเวลาจำเป็น มีเงินเที่ยวยาวถึงปีหน้า • • แถมปลอดภัยและนำไปลดหย่อนภาษีได้อีก คราวนี้เหลือแค่เลือกสถานที่ แพ็คกระเป๋า แล้วออกเดินทางท่องโลกกว้างได้เลยจ้า
28 พฤษภาคม 2561
10 สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในกระบี่
ไทย

กระบี่ จังหวัดยอดฮิตของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก หนึ่งในจุดหมายปลายทางในวันพักผ่อน ซึ่งแน่นอนว่าสถานที่ท่องเที่ยวย่อมไม่ธรรมดาแน่นอนค่ะ ถึงขนาดได้รับฉายาว่าเป็น Unseen Thailand เลยทีเดียว จะมีที่ไหนบ้าง ตามมาเลยค่า...    เกาะปอดะ   Location:      หนึ่งในหมู่เกาะยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เพราะเดินทางสะดวก ค่าใช้จ่ายไม่มาก หาดทรายสวย น้ำทะเลใส ถือเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด ตัวชายหาดยาวกว่ากิโลเมตร บรรยากาศร่มรื่นด้วยทิวสน น้ำทะเลใสจนเห็นทรายขาวใต้น้ำ สามารถดำน้ำชมปะการัง พายเรือคายัค หรือแม้แต่นอนอาบแดดก็เหมือนสวรรค์ดีๆ นี่เอง    เกาะรอก   Location:      เกาะที่เชื่อมต่อกับทะเลตรัง ลักษณะเป็นสองเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่คู่กัน มีหาดทรายยาว และยังเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ตัวเกาะเป็นหน้าผาสูงชัน สามารถชมวิวและชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงามมาก ด้านตะวันออกของเกาะมีหาดทรายและแนวปะการัง น้ำทะเลใสสีเขียวมองเห็นปลาแหวกว่าย      หาดนพรัตน์ธารา   Location:      อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี มีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามมากมายทั้งหมู่เกาะพีพี, สุสานหอย, หาดไร่เลย์ อ่าวถ้ำพระนาง ชายหาดปะปนด้วยเปลือกหอยเล็กๆ สะท้อนกับแสงแดด เรียงรายตามชายหาด เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของหอยชักตีนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งด้วยค่ะ    เกาะห้อง   Location:      เกาะที่งดงามที่สุดในบรรดาเกาะของเที่ยวกระบี่ที่ใครก็ต่างอยากแวะเวียนว่าพิสูจน์ด้วยตัวเอง ความน่าสนใจของที่นี่คือการดำน้ำค่ะ เพราะที่นี่มีปะการังและพืชทะเลหายาก ตัวชายหาดเหมาะแก่การเล่นน้ำและแคมปิ้งเป็นที่สุด แถมนักท่องเที่ยวยังนิยมพายเรือคายักชื่นชมความงามของท้องทะเลอย่างใกล้ชิด      อ่าวโล๊ะซามะ   Location:      อีกมุมหนึ่งของทะเลอันดามันอันเงียบสงบ เป็นที่ตั้งของอ่าวโล๊ะซามะ เวิ้งอ่าวแคบ แต่มีน้ำทะเลใส เป็นจุดดำน้ำ Snorkeling ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะพีพี สีสันใต้ทะเลสดใส ส่วนท่านที่อยากผจญภัย สามารถเดินทะลุผ่านโพรงถ้ำทะลุไปยังอ่าวมาหยาได้ค่ะ      สระมรกต   Location: ​     ขึ้นทำเนียบสถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand  อันดับต้นๆ สระน้ำสวยใสกลางใจป่าที่มีน้ำใสสีเขียวอมฟ้า เปลี่ยนสีได้ตามวันเวลาและสภาพแสง เกิดจากธารน้ำอุ่น เป็นน้ำพุลักษณะเป็นสระน้ำร้อน 3 สระ (สระมรกต-สระแก้ว-สระน้ำผุด) มีอุณหภูมิประมาณ 30-50 องศาเซลเซียส โอบล้อมด้วยป่าร่มรื่นและเส้นทางศึกษาธรรมชาติ (เที่ยวกระบี่)      ธารน้ำตกร้อน   Location:      ผ่านแนวป่าร่มรื่นลักษณะเป็นผืนป่ารายต่ำ (เหลือเพียงแห่งเดียวในเมืองไทย) จะพบน้ำตกขนาดเล็กที่มีอุณหภูมิสูง 42 องศาเซลเซียส บางช่วงจะมีควันลอยเอื่อย นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ แต่ควรระมัดระวังให้มาก เพราะค่อนข้างลาดชันและลื่นพอสมควรค่ะ ด้านในมีบ่อน้ำร้อน ที่สร้างไว้ให้นักท่องเที่ยวนอนแช่ตัวผ่อนคลาย ว่ากันว่าดีต่อสุขภาพมาก เป็นการทำสปาธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยป่าไม้ร่มรื่น Tips: ไม่ควรแช่เกิน 20 นาทีและสามารถนำเสื้อผ้ามาเปลี่ยนได้ในห้องแต่งตัวบริเวณบ่อน้ำร้อนนะคะ     วัดถ้ำเสือ   Location:      วัดที่รู้จักกันดีในจังหวัดกระบี่"เที่ยวกระบี่" ทั้งความโดดเด่นของวัดและชื่อเสียงของหลวงพ่อจำเนียร เจ้าอาวาสที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธา ภายในวัดมีเป็นสวนป่า มีโพรงถ้ำและเพิงผา ไฮไลท์ที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากที่สุดคือการได้แวะสักการะขอพรจากเจ้าแม่กวนอิม สูงกว่า 5 เมตรที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัด    ทะเลแหวก   Location:      “Thalay Wak – Parting Sea” หรือทะเลแหวก Unseen Thailand ที่โด่งดังไปทั่วโลก เกิดจากความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ เมื่อน้ำลดจะเกิดปรากฎการณ์ทะเลแหวก เห็นส่วนสันทรายขาวละเอียดทอดตัวเป็นแนวยาวเชื่อมถึงกันระหว่าง 3 เกาะ (เกาะไก่ – เกาะหม้อ – เกาะทับ) และค่อยๆจมหายไปใต้ผืนน้ำเมื่อเข้าสู่ช่วงน้ำขึ้นในแต่ละวัน ดังนั้นบริเวณนี้จึงถูกยกให้เป็นแหล่งเล่นน้ำที่ดีที่สุดอีกแห่งของท้องทะเลกระบี่เลยก็ว่าได้ค่ะ ฤดูท่องเที่ยวตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน – ต้นพฤษภาคม    Tips: ช่วงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า จะพบฝูงค้างคาวแม่ไก่นับหมื่นบินออกจากถ้ำเป็นเวลานับครึ่งชั่วโมง นับเป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้ทะเลแหวกเลย    หาดไร่เลย์   Location:      อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา– หมู่เกาะพีพี ได้ชื่อว่าเป็นเกาะพีพีแห่งที่ 2 ของจังหวัดกระบี่(เที่ยวกระบี่) เป็นหาดที่งดงามด้วยหินผาสูงตระหง่าน และถือว่าเป็นแหล่งกีฬาปีนผาที่ลือชื่อ ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติต่างให้ความสนใจอยากมาลองสัมผัสประสบการณ์อันน่าท้าทายนี้ การเดินทางไปเที่ยวไร่เลย์ สามารถนั่งเรือได้ที่ท่าเรือหางยาวที่สะพานเจ้าฟ้า ตัวเมืองกระบี่ ค่าโดยสารประมาณ 100 บาท หรือที่ อ่าวนาง และอ่าวน้ำเมา ค่าเรือโดยสารประมาณ 50 บาท ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10-15 นาที   Don’t Miss! ‘อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา’ ประกอบด้วยเกาะต่างๆ ที่สำคัญมากมาย ฤดูกาลท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – พฤษภาคม  เกาะลันตาน้อย เกาะที่มีชุมชนของชาวเกาะลันตาในอดีต มีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม และมีบ้านเรือโบราณให้ได้พบเห็นกัน  เกาะลันตา่ใหญ่ ศูนย์กลางธุรกิจของเกาะ มีบริการท่องเที่ยวครบครัน มีชายหาดและอ่าวเรียงรายสวยงาม มีถนนตัดผ่านท่าเรือผ่านชายหาด ยาวไปถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาซึ่งอยู่ใต้สุดของเกาะ  สุสานหอย ลานหินกว้างยื่นไปในทะเล มีซากหอยอัดแน่นจนกลายเป็นหาดหินริมทะเล จากการคำนวณอายุทางธรณีวิทยาแล้ว พบว่าฟอสซิลเหล่านี้มีอายุราว 40 ล้านปี (สุดยอดดด!)  หาดไร่เลย์ หาดทรายขาวละเอียดริมผา เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกิจกรรมปีนหน้าผา แบ่งออกเป็นไร่เลย์ตะวันออก และไร่เลย์ตะวันตก มีโขดหินคั่นกลาง บริเวณหาดเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก  หมู่เกาะพีพี หมู่เกาะกลางทะเล อาณาจักรใต้สมุทรที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่มาเพื่อดำน้ำดูปะการังใต้ทะเล และปลาหลากหลายสีสัน แถมยังมีเกาะที่อยู่ระหว่างเส้นทางเดินเรือ กระบี่-ภูเก็ต-หมู่เกาะพีพี ซึ่งแต่ละเกาะมีหาดทรายสวย น้ำทะเลใส เห็นแล้วอดใจไม่ไหว อยากลงเล่นน้ำซะจริงๆ   Location:     แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ 
28 พฤษภาคม 2561
One Day Trip – เที่ยวแบบ Slow Life @ลำปาง
ไทย

  ‘ลำปาง’ จังหวัดภาคเหนือที่มากด้วยเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ บรรยากาศ และอากาศที่สดชื่นแล้ว จุดเด่นของลำปางคือ ‘รถม้า’ ที่เป็นเหมือนโลโก้ประจำจังหวัดไปซะแล้ว หนึ่งวันนี้เราขอพานั่งรถม้าเที่ยวเมืองลำปางกันให้เต็มอิ่ม แล้วคุณจะหลงเสน่ห์จนถอนตัวไม่ขึ้นเลยทีเดียวค่ะ         สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สามารถจองเที่ยวบินมายัง ‘ท่าอากาศยานลำปาง’ ใช้เวลาทั้งสิ้น 1.30 ชม.เท่านั้นค่ะ หรือถ้าอยากเที่ยวแบบ Slow Life ไม่เร่งรีบ แถมได้สัมผัสบรรยากาศระหว่างทาง เช่ารถจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้โดยตรงเลยนะจ้ะ ปลอดภัยและคุ้มค่าแน่นอน       เมื่อมาถึงลำปาง สิ่งที่โดดเด่นและน่าประทับใจต้องยกให้ ‘สะพานรัษฎาภิเศก’ หรือที่ชาวลำปางเรียกกันว่า ‘สะพานขาว’ ที่ผ่านสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 แถมรอดพ้นจากการทิ้งระเบิดได้ด้วยสีพรางตา แต่เดิมเป็นสะพานไม้เสริมเหล็ก ปัจจุบันก่อสร้างใหม่กลายเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของจังหวัดที่มีเสน่ห์มาก         หลังจากผ่านสะพานมา จะพบกับบ้านไม้ที่ใช้เป็นสถานที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ‘บ้านเสานัก’ ภาษาพื้นเมืองคำว่านัก แปลว่ามาก บ้านเสานักจึงหมายถึงบ้านไม้ที่มีเสาไม้สักมาก (มีมากถึง 116 ต้น) ตัวบ้านเป็นศิลปะแบบพม่าผสมล้านนา ใช้เป็นสถานที่จัดขันโตกและงานพิธีมงคลต่างๆค่ะ   เปิด: 10.00 – 17.00 น.     จากบ้านเสานักเพียง 5 นาทีจะพบกับร้านอาหารราคาถูกมาก เริ่มต้นเพียง 15 บาทเท่านั้น 'ร้านอร่อยบาทเดียว' ข้าวต้มถูกเคี่ยวให้เปื่อย ทานคู่กับหลากหลายเมนู ตัวร้านเป็นบ้านไม้สองชั้น ตกแต่งด้วยภาพเก่าเล่าเรื่องเมืองลำปาง บรรยากาศสบายๆ มองเห็นถนนคนเดินของกาดกองต้าได้อีกด้วยนะคะ   เมนูแนะนำ: ปลาทอดสมุนไร, ปลานิลนึ่งซีอิ๊ว, ปลานิลนึ่งมะนาว, ต้มยำอร่อยบาทเดียว, มะเขือยาวผัดเต้าเจี้ยว เปิด: 16.00 – 24.00 น. ที่มา: http://blog.bangkokair.com       ได้เวลาเช็คอินเข้าที่พักกันแล้วค่ะ โรงแรมที่เราแนะนำวันนี้เป็นที่นิยมมากอันดับต้นๆของนักท่องเที่ยวเลยทีเดียว ‘ลำปาง ริเวอร์ ลอดจ์’ (Lampang River Lodge) โดดเด่นในการนำเสนอวัฒนธรรมท้องถิ่นแบบล้านนาและธรรมชาติสีเขียว ที่ผสานกันอย่างลงตัวมากๆ ภายในวิลล่า เสริมด้วยบรยากาศสุดผ่อนคลายและเสียงแม่น้ำวังไหลเอื่อย ความสวยงามเหล่านี้ทำให้โรงแรมแห่งนี้ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน Unseen Paradise Thailand ที่ต้องมาให้ได้!     TIPS สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากนั่งรถม้าหรือปั่นจักรยานชมเมือง ทางโรงแรมเค้ามีบริการให้เช่นกันค่ะ     สนใจจองห้องพัก คลิก!!  จองโรงแรมอื่นในลำปาง         มาถึงลำปางทั้งที ต้องแวะสักการะ ‘พระธาตุลำปางหลวง’ กันด้วยค่ะ วัดคู่บ้านคู่เมืองลำปาง ได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย งดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ทั้งพระธาตุลำปางหลวง, วิหารหลวง, วิหารพระพุทธ, วิหารภาพเขียนสี, ซุ้มพระบาท, กุฏิพระแก้ว, วิหารเจ้าศิลา และพิพิธภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมี ‘พระแก้วดอนเต้า’ (พระแก้วมรกต) พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัด ศิลปะล้านนาสลักด้วยหยกสีเขียว ที่มีงานจัดนมัสการทุกวันเพ็ญเดือน 12 ของทุกปีค่ะ            TIPS  ‘นั่งรถม้าชมเมือง’ อยู่คู่กับจังหวัดมากว่า 80 ปีแล้วค่ะ ปัจจุบันเหลือเพียงจังหวัดเดียวเท่านั้นที่ยังคงใช้รถม้าตราบจนทุกวันนี้นั่นคือ ‘ลำปาง’ นั่นเองค่ะ       อีกหนึ่งสถานที่ๆไม่ควรพลาดนั่นคือ ‘วัดศรีชุม’ วัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาวัดพม่าในไทย จุดเด่นอยู่ทีพระวิหาร ซึ่งเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้มีศิลปะการตกแต่งแบบล้านนาและพม่า และหลังคาเครื่องไม้ยอดแหลมแกะสลักสวยงาม ปัจจุบันได้รับการบูรณะใหม่จากส่วนที่ถูกไฟไหม้ไป กลับมาสวยงามและตระการตาเช่นเดิมค่ะ   ที่มา: thailovetrip.com         เที่ยวกันจนเหนื่อย แวะนั่งพักจิบกาแฟหอมๆกันหน่อยมั้ยคะ เราขอแนะนำ ‘โก๋กาแฟ’ ร้านกาแฟสดคุณภาพและรสชาติเลิศ จากบาริสต้ามากประสบการณ์ บรรยากาศผ่อนคลาย มีสวนร่มรื่น นอกจากนี้ยังมีบริการ Delivery เพื่อคอกาแฟโดยเฉพาะ และบริการจัดเลี้ยงชา-กาแฟนอกสถานที่ด้วยนะจ้ะ เปิด: ทุกวัน 08.00 – 18.00 น.   ที่มา: http://www.clubaroy.com / http://www.lampang108.com      Recommend Restaurant ‘ร้านเสบียง’ อีกหนึ่งร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ ติดแม่น้ำวัง ตัวร้านเป็นเรือนไม้อายุกว่า 40 ปี ร่มรื่นด้วยต้นไม้ นั่งทานอาหารอร่อยชมวิวชิลล์ๆ ในราคาที่ไม่แพงเลย เมนูแนะนำ: ขาหมูเสบียง, ส้มตำยอดมะพร้าว, แกงส้มกุ้งชะอมทอด, ยำผักบุ้งกรอบ, น้ำพริกหนุ่ม, น้ำพริกอ่อง เปิด: ทุกวัน 10.30 – 23.00 น. ที่มา: http://eat.edtguide.com      Recommend Place ‘ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย’ แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์เพื่อคนรักช้าง มีการแสดงต่างๆจากช้างที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ทั้งช้างอาบน้ำ, การแสดงช้าง, โฮมสเตย์, ขี่ช้างท่องไพร ซึ่งศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยเป็นแห่งแรกของเมืองไทย ที่นำนักท่องเที่ยวขึ้นขี่คอช้างและสอนทักษะเบื้องต้น ภายใต้การดูแลของควาญช้างที่ชำนาญ เว็บไซต์: www.thailandelephant.org     ดินเนอร์ที่ลำปางทั้งที ต้องแวะร้านบรรยากาศดีๆนะคะ ซึ่งก็ต้องยกให้ร้านนี้เค้าล่ะ ‘The Riverside Restaurant & Bar’ ร้านอาหารฟิลล์กู้ด ฟังเพลงสบายๆ อาหารอร่อย เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติมากร้านนึงเลยล่ะ   เมนูแนะนำ: สะตอผัดกุ้ง, ปลาดุกทอดน้ำปลา, รังผึ้งอ่อนอบเกลือ, ปลาช่อนล่องซุง เปิด: 10.00 – 24.00 น. ที่่มา: https://www.wongnai.com         ปิดท้ายคืน Slowlife ที่ลำปาง ด้วยการเดินชิลล์ๆที่ ‘ถนนคนเดินกาดกองต้า’ ศูนย์การค้าจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง สินค้าแฮนด์เมด อาหารพื้นบ้าน ของที่ระลึก รวมถึงลานกิจกรรม ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของลำปางที่นักท่องเที่ยวไม่ว่าจะไทยหรือต่างชาติ ต้องมาเดินเที่ยวให้ได้นะคะ เปิด: เสาร์-อาทิตย์ 17.00 – 22.00 น. ที่มา: review.tourismthailand.org  
24 พฤษภาคม 2561
มากระบี่ทั้งที... ไม่เที่ยว 10 ที่นี้ได้ไง
ไทย

        ถ้าพูดถึง Unseen in Thailand คุณจะนึกถึงจังหวัดไหน? 1 ในคำตอบนั้นคงมีชื่อ ‘จังหวัดกระบี่’ ผุดขึ้นมาในหัวอย่างแน่นอน เมืองที่ใครๆ ก็ต่างหลงรักแห่งนี้ เป็นโลเคชั่นในฝันของเหล่านักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสธรรมชาติ ความงดงามของท้องทะเล เสน่ห์ของภูเขาและน้ำตก บอกเลยว่ามาที่เดียวเที่ยวได้ครบทุกสไตล์ แม้ว่าตอนนี้เที่ยวบินมายังกระบี่จะสะดวกและราคาสบายกระเป๋าสักแค่ไหน การวางแผนเดินทางท่องเที่ยวก็ยังสำคัญเสมอ ซึ่งสายการบิน “Thai Vietjet” คิดแทนนักท่องเที่ยวทุกท่าน จัดเที่ยวบินให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง บินสบายจากสนามบินสุวรรณภูมิวันละ 2 เที่ยวบิน   เส้นทาง สุวรรณภูมิ - กระบี่  รอบเช้า VZ340  ออกจากกรุงเทพฯ 07.10 ถึงกระบี่ 08.35 น.   รอบค่ำ  VZ344   ออกจากกรุงเทพฯ 19.25 ถึงกระบี่ 20.50 น.   เส้นทาง กระบี่ - สุวรรณภูมิ  รอบเช้า VZ341  ออกจากกระบี่ 09.05 ถึงกรุงเทพฯ 10.30 น. รอบค่ำ  VZ345  ออกกระบี่ 21.20 ถึงกรุงเทพฯ 22.45 น.     ได้ไฟลท์บินที่ถูกใจแล้ว ตามมาฟินกันต่อกับ 10 ที่เที่ยวห้ามพลาดประจำกระบี่ มาทั้งทีต้องแวะให้ได้สักครั้ง! ไม่ได้ไปเหมือนมาไม่ถึงกระบี่นะขอบอก :)     เที่ยวบินสุดฮิตของนักท่องเที่ยว จัดเป็นไฟลท์เช้าสุดนั่งชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นจากบนเครื่องบินสวยงามสุดๆ ไปถึงก็เที่ยวต่อได้เลย นั่งเรือไปเกาะอากาศกำลังดี ไม่ร้อนเกินไป และขากลับก็ไม่ต้องรีบร้อน อยู่เที่ยวได้เต็มอิ่มทั้งวัน แล้วแวะทานมื้อค่ำอร่อยๆ ก่อนบินกลับกรุงเทพฯไฟลท์ดึก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก www.vietjetair.com    มากระบี่ทั้งที... ไม่เที่ยว 10 ที่นี้ได้ไง “ปีนหน้าผา ท้าทายความกล้าที่หาดไร่เลย์”       กระตุ้นอะดรีนาลีนให้สูบฉีด พิชิตหน้าผาสูงชมวิวเวิ้งทะเลแบบไม่มีอะไรบดบังสายตา หาดไร่เลย์ถูกยกให้เป็นไฮไลท์ของนักปีนผาทุกคน หน้าผาหินปูนพร้อมจุดชมวิวสวยงาม ปิดท้ายวันพิเศษด้วยวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกระบี่ ใครอยากได้้ประสบการณ์แปลกใหม่ต้องไม่พลาดที่นี่เลย   “ชมคลองเปลี่ยนสีในพริบตาเดียวที่ท่าปอมคลองสองน้ำ” Credit: http://thailandtopvote.com     คลองสั้นๆ ยาวเพียง 5 กม. ล้อมด้วยป่าชายเลนที่โตได้ในน้ำกร่อยและน้ำเค็ม ต้นน้ำมาจากภูเขาหินปูนที่อุดมไปด้วยสารแคลเซียมคาร์บอเนตที่จับตะกอนลงใต้น้ำ น้ำจึงเป็นสีฟ้าใสราวกับกระจก ถ้านี่คิดว่าพิเศษแล้ว ยังค่ะ... เพราะเมื่อน้ำขึ้น น้ำทะเลจะไหลเข้ามาทำให้น้ำเปลี่ยนสี จากใสกลายเป็นขุ่น เป็นที่มาของชื่อว่า ‘ท่าปอมคลองสองน้ำ’ นั่นเอง   “ฟินกับความงามระดับท็อปของโลกที่เกาะพีพี”       มรกตแห่งทะเลอันดามันที่ควรไปเยือนสัักครั้งในชีวิต เกาะพีพี และ เกาะพีพีดอน 2 เกาะใหญ่ที่โค้งเข้าหากัน กลายเป็นภาพที่สวยงามติดอันดับโลก ไฮไลท์คืออ่าวมาหยา โลเคชั่นถ่ายหนังเรื่อง The Beach ภาพหน้าผาโอบล้อมทะเลเหมือนอ่าวปิด แต่ด้านในมีน้ำทะเลสีมรกตใสกิ๊งน่าแหวกว่าย กลายเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังและฝูงปลามากมาย   “Unseen Thailand ที่สระมรกต”     สระสวยน้ำสีเขียวมรกตใจกลางป่า ใสแจ๋วเหมือนว่ายในสระน้ำโรงแรม เจ้าของตำแหน่ง Unseen Thailand ของกระบี่ ความพิเศษของที่นี่นอกจากสีเขียวอมฟ้าแล้ว มันเป็นสระน้ำอุ่นไหลมารวมตัวกัน ลงเล่นน้ำได้ชิลล์มาก เดินเลยไปอีกนิดจะเจอกับสระน้ำผุด อีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของแอ่งน้ำสีฟ้าสดใสใจกลางป่า   “อิ่มบุญ อิ่มวิวที่วัดถ้ำเสือ”     วัดตั้งอยู่บนเขาสูงที่ต้องมาให้ได้สักครั้ง ห่างจากตัวเมืองนิดหน่อยพอขับรถไหว ถึงแล้วเจอด่านแรกก็อย่าเพิ่งท้อใจ บันไดกว่า 1,237 ขั้น เดินเรื่อยๆ จนถึงชั้นบนสุด จะพบกับวิวบนเขาที่กว้างแบบพาโนรามา ปกคลุมด้วยทะเลหมอกบางเวลา นอกจากจะได้บุญแล้วยังได้ชมวิวสวยๆ ไปในตัว   “แช่ออนเซ็นกลางแจ้งที่น้ำตกร้อนคลองท่อม”     ลงแช่ออนเซ็นกลางแจ้ง.. ไม่ต้องไปถึงญี่ปุ่นหรอก มาแค่กระบี่ก็พอแล้ว น้ำตกร้อนแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำพุร้อน อุณหภูมิกำลังดัน 40-50 องศา ลงแช่ได้สบายๆ น้ำร้อนซึมขึ้นมาจากผิวดิน ไหลลงลดระดับกันกลายเป็นชั้นน้ำตกเล็กๆ น่าไปสุดๆ   “เปิดประตูเข้าห้องดูน้ำใสปิ๊ง ที่เกาะห้อง”     เกาะห้องแห่งนี้มีอีกชื่อคือ เกาะเหลาบิเละ ทัศนียภาพสวยงาม ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีครามและปะการังรอบเกาะ หาดทรายขาว ฝูงปลาแหวกว่าย การไปเยือนก็ไม่ใช่อยากจะไปเดินทางก็ได้เลยนะ ต้องนั่งเรือผ่านช่องแคบของภูเขาเข้าไปสู่ลากูนด้านใน ซึ่งมีทางเข้าทางเดียวเท่านั้น เหมือนเปิดประตูเข้าห้องยังไงยังงั้นเลย   “นอนอาบแดดให้ผิวแทนที่เกาะปอดะ”     เกาะสวยอันดับต้นๆ ของกระบี่ คงความสวยงามและธรรมชาติที่สมบูรณ์สุดๆ ห่างจากอ่าวนางมานิดหน่อย อยากฟินกับกระบี่ทั้งทีต้องแวะมาที่นี่เลยแหละ ชายหาดเหมาะกับการว่ายน้ำ อาบแดด ท่องเที่ยว พักผ่อน เก็บประสบการณ์มันส์ๆ ในชีวิตเป็นที่สุด   “Unseen Thailand ที่ทะเลแหวก มาที่เดียวเที่ยวถึง 3 เกาะ”     Unseen ของกระบี่ที่ใครๆ ก็รู้จักเป็นอย่างดี ยืนโพสต์ท่าสวยๆ กับสันทรายขาวทอดเชื่อมระหว่าง 3 เกาะ เกาะไก่ เกาะทับ และเกาะหม้อ ความมหัศจรรย์ของทะเลแหวกเกิดจากระดับที่ลดลงต่ำสุดในแต่ละวัน ปรากฏเป็นหาดทรายขาวละเอียดให้เดินเล่นไปมา โดยเฉพาะช่วง 5 วันก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ เที่ยวได้ตั้งแต่ช่วงพฤศจิกายน – ต้นพฤษภาคมของทุกปี   “โรแมนติกเป็นส่วนตัวที่เกาะรอก”     อยากสัมผัสความเงียบสงบและบรรยากาศส่วนตั๊วส่วนตัวต้องมาเกาะรอกเท่านั้นเลย นอกจากความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล ใสจนเห็นปะการังด้านล่าง ฝูงปลาว่ายไปมาแล้ว หาดทรายนุ่มละเอียดเหมือนแป้งยังเป็นไฮไลท์ของที่นี่อีกด้วยนะ นั่งทอดอารมณ์เอาเท้าแช่ทราย เพลินสุดๆ   อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คงทราบว่า ‘จังหวัดกระบี่’ เป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเช็คอินซักครั้ง ผ่อนคลายใกล้ชิดกับธรรมชาติที่สมบูรณ์ และที่สำคัญ กระบี่เป็น “เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก” อัธยาศัยของคนที่นี่ จะทำให้ประทับใจไม่รู้ลืม สายการบินไทยเวียตเจ็ท บินตรงจาก กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) – กระบี่ วันละ 2 เที่ยวบิน กับราคาประหยัด และโปรโมชั่นพิเศษมีมาให้จองตลอดทั้งปี คลิกไปตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมแล้วจองได้เลยที่ www.vietjetair.com      
24 พฤษภาคม 2561
บุกชมความงาม เจดีย์สวย พระองค์ใหญ่ วัดถ้ำเสือ จ.กาญจนบุรี
ไทย

  วัดถ้ำเสือ ชมความงามและยิ่งใหญ่ของพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุด (กาญจนบุรี)   ที่อยู่ : ตำบล ม่วงชุม อำเภอ ท่าม่วง กาญจนบุรี 71110            'วัดถ้ำเสือ' เป็นวัดที่มีชื่อเสียงไม่น้่อย รวมถึงยังถือว่าเป็นวัดที่มีพระที่มีองค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี พระเจดีย์ที่มีความสวยงามโดดเด่น สามารถมองเห็นได้จากในระยะไกล เพราะตั้งอยู่บนเนินเขา ใครที่มาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี สามารถแวะเยี่ยมชมวัด สักการะพระบรมสารีริกธาตุภายในพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท และนมัสการหลวงพ่อชินประทานพร        'วัดถ้ำเสือ'  ตั้งอยู่บนเนินเขา ในตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง เป็นอำเภอที่อยู่ก่อนถึงตัวเมืองกาญจนบุรี เดิมเป็นเพียงสำนักสงฆ์เล็กๆ ที่อยู่ในบริเวณถ้ำเสือด้านล่างริมเนินเขา ต่อมาได้แรงศรัทธาจากชาวบ้าน ร่วมกันสร้างและบูรณะ จนกลายเป็นวัดที่ใหญ่โต และมีความวิจิตรงดงาม    ขอบคุณรูปสวยๆ จาก weekendhobby.com                  เมื่อไปถึงวัดถ้ำเสือด้านหน้าจะเป็นลานจอดรถ และร้านขายของกิน ของฝากต่างๆ ศาลาด้านล่างติดกับบริเวณที่จอดรถ เป็นศาลาการเปรียญประดิษฐานสังขารหลวงปู่ชื่น ที่บรรจุอยู่ในโลงแก้ว มีศาลาประดิษฐานรูปหล่อเจ้าอาวาสหลวงพ่อสิงห์ หลวงพ่อชื่น ซึ่งหลวงพ่อสิงห์เป็นพระธุดงค์ที่มาพบถ้ำเสือ ส่วนหลวงพ่อชื่นเป็นผู้บูรณะปฏิสังขรวัด และยังมีส่วนที่เป็นถ้ำ ที่แบ่งออกเป็น 4 ห้อง มีห้องโถงใหญ่ประดิษฐานพระประธาน 2 ห้องสำหรับหลวงพ่อชื่นมาบำเพ็ญภาวนา และห้องประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิม   ขอบคุณรูปสวยๆ จาก yesorno7.com                  การขึ้นไปบนเขาที่ประดิษฐานหลวงพ่อชินประทานพร และพระเจดีย์ ทำได้ทั้งเดินขึ้นบันไดนาคด้านหน้า ที่มีจำนวน 157 ขั้น ชันประมาณ 60 องศา หรือสามารถซื้อตั๋วรถรางไฟฟ้านั่งไปกลับ (ไม่ต้องเดิน) ในราคาเพียง 10 บาท เมื่อขึ้นไปถึงบนเขาบริเวณวัด ด้านซ้ายติดกับบริเวณรถรางจะเป็นพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท               เดินตรงไปด้านหน้าจุดเด่นจุดแรกคือ พระชินประทานพร พระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ด้านซ้ายขององค์พระเป็นวิหาร ส่วนด้านขวาเป็นพระอุโบสถอัฏมุข นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่วัดมักจะสักการะพระชินประทานพรก่อน แล้วค่อยขึ้นไปยังพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท เพื่อนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ และชมวิวทิวทัศน์ แบบ 360 องศา ซึ่งด้านหน้าวัดจะเห็นลำน้ำแม่กลอง ด้านหลังเป็นท้องทุ่งนาเขียวขจี ส่วนด้านข้างติดกับองค์พระเจดีย์ เป็นเก๋งจีนของวัดถ้ำเขาน้อย   ขอบคุณรูปสวยๆ จาก tvpoolonline.com    ข้อมูลเพิ่มเติม        'วัดถ้ำเสือ' ได้มีการวางแผ่นฤกษ์เมื่อวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 พ.ศ. 2516 โดยเริ่มสร้าง "หลวงพ่อชินประทานพร" ขนาด สูง 9 วา 9 นิ้ว หน้าตัก 5 วา 3 ศอก 9 นิ้ว นับว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามเป็นอย่างยิ่ง อยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ ปางประทานพร พระหัตถ์ขวายกขึ้นระดับพระอุระ ปลายนิ้วชี้กับนิ้วโป้งจรดกัน กลางฝ่ามือมีดอกไม้ พระหัตถ์ซ้่ายหงายมือวางบนพระเพลา (ตัก) ปลายนิ้วชี้กับนิ้วโป้งจรดกัน กลางฝ่ามือมีรูปวงล้อธรรมจักร รอบองค์พระมีเรือนแก้วครอบลักษณะเดียวกับพระพุทธชินราช องค์พระประดับกระเบื้องสีทอง สุกอร่าม รอบนอกมีซุ้มครอบองค์พระทั้งองค์ไว้อีกชั้นหนึ่ง นับได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามเป็นอย่างยิ่ง          ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 ได้มีการสร้างมณฑปเพื่อครอบรอยพระพุทธบาทเบื้องซ้าย ที่มีความยาว 1.50 เมตร และเริ่มสร้างพระอุโบสถเมื่อวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปี พ.ศ. 2520 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานวิสุงคามสีมา (พื้นที่ในการสร้างอุโบสถ) เพื่อสร้างพระอุโบสถอัฐมุข คือสร้างพระอุโบสถให้มีมุข 8 ด้าน โดยมีมุขหลักยื่นออกมา 4 ด้าน ระหว่างมุขแต่ละด้าน มีหลังคาจั่วซ้อนชั้นยื่นออกมา ดูเป็นมุข 8 ด้าน ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนที่ไหน เป็นการสร้างโดยเปรียบกับการเผยแผ่พระพุทธศาสนาออกไปทั้ง 8 ทิศ เมื่อเข้าไปภายในพระอุโบสถ จะเห็นผนังเป็นแปดด้านอย่างชัดเจน ผนังประดับด้วยปูนปั้นเป็นเรื่องราวพุทธประวัติ        ต่อมาในวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 9 ปี พ.ศ. 2527 ได้มีการทำพิธีลงเข็ม เทเสาเอก เพื่อก่อสร้าง "พระเจดีย์เกศแก้วปราสาท" ที่ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 7 ปี เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม สีส้มอิฐ มีความสูง 75 เมตร มีทั้งหมด 9 ชั้น ตรงกลางมีบันไดเวียนสามารถเดินขึ้นไปถึงชั้นบนสุด แต่ละชั้นมีหน้าต่างติดด้วยบานกระจกเลื่อนโดยรอบ และประดิษฐานพระพุทธรูปตามบริเวณช่องหน้าต่าง สามารถขึ้นไปชั้นบนสุดเพื่อนมัสการองค์พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชเสด็จมาบรรจุไว้ เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2533   ขอบคุณรูปสวยๆ จาก dekguide    ข้อมูลการเข้าชม     เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน     จันทร์ - ศุกร์ : เวลา 8.30 - 16.30 น.     เสาร์ - อาทิตย์ : เปิดเวลา 8.00 - 16.30 น.  การเดินทางไปยังวัดถ้ำเสือ และวัดถ้ำเขาน้อย     นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจังหวัดกาญจนบุรี สามารถแวะทำบุญสักการะพระที่วัดถ้ำเสือและวัดถ้ำเขาน้อยได้ทั้งขาไปและขากลับ เพราะอยู่ไม่ไกลจากเส้นทางหลัก และห่างจากตัวเมืองกาญจน์เพียง 12 กิโลเมตร วัดทั้งสองตั้งอยู่ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง อยู่ติดกันแค่มีรั้วกั้น สามารถเข้าไปภายในวัดได้จากชั้นล่าง เพราะทั้งสองวัดไม่มีทางเชื่อมต่อกัน  การเดินทางจากกรุงเทพฯ     1. จากกรุงเทพฯ ผ่านอำเภอบ้านโป่ง เข้าถนนแสงชูโต จะผ่านแยกมิราเคิล ออฟ ไลฟ์ จากนั้นพอถึงแยกท่าม่วง เลี้ยวซ้ายไปทางอำเภอท่าม่วง     2. ผ่านหน้าโรงพยาบาลท่าม่วง วนวงเวียนหอนาฬิกา เพื่อเลี้ยวซ้ายไปถนนเลียบคลองชลประทาน     3. เจอสามแยก เลี้ยวขวาไปอีก 2 กิโลเมตร (มีป้ายบอกทาง) ให้วิ่งไปทางเดียวกับวัดม่วงชุม พอเลยวัดม่วงชุมไปจะเห็นทางเข้าวัดถ้ำเสือ อยู่ทางซ้ายมือ  การเดินทางจากตัวเมืองกาญจน์     1. จากตัวเมืองกาญจน์ วิ่งผ่านหน้าโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เจอสามแยกไฟแดงตรงหน้าศาลากลางจังหวัด ให้เลี้ยวขวา     2. หลังจากข้ามสะพานแล้ว ให้ทำการเลี้ยวซ้ายข้างสะพาน (ทางเดียวกับทางไปวัดบ้านถ้ำ) จากนั้นวิ่งถนนสายใน ไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร     3. วิ่งข้ามคลองชลประทานไป จนเห็นวัดม่วงชุม เลี้ยวขวาข้างวัด (ตรงนี้ไม่มีป้ายบอกทาง) วิ่งเลาะรั้ววัดมา ถึงสามแยกเลี้ยวขวา จะเห็นป้ายทางเข้าวัดถ้ำเสือทางซ้ายมือ  ข้อแนะนำ     - วัดถ้ำเสือ และ วัดถ้ำเขาน้อย เป็นวัดที่อยู่ติดกัน สามารถเที่ยวชมได้ทั้งสองวัดในวันเดียวกัน     - วัดถ้ำเสือ มีรถรางไฟฟ้าสำหรับบริการผู้ที่ไม่สะดวก หรือ ไม่สามารถเดินขึ้นบันไดได้ (บันไดค่อนข้างแคบและชัน) ส่วนวัดถ้ำเขาน้อยไม่มีรถรางบริการ การเดินขึ้นไปยังเจดีย์หมื่นพุทธจะมีเส้นทางค่อยๆ ไต่ระดับ เดินง่าย ไม่ชันมาก     - ควรแต่งกายสุภาพเข้าวัด     - การเดินทางไปยังวัดถ้ำเสือ และวัดถ้ำเขาน้อย มีบางช่วงเส้นทางค่อนข้างซับซ้อน เพราะต้องผ่านเข้าไปในเส้นทางแคบในเขตชุมชน และบางจุดป้ายบอกทางไม่ชัดเจน ควรสังเกต ยอดของพระเจดีย์เกศแก้วปราสาทของวัดถ้ำเสือ แล้วมุ่งเดินทางไปตามเส้นทางนั้น   ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย , ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก kanchanaburi.co.th   ที่พักแนะนำใกล้ "วัดถ้ำเสือ" เมฆคีรี ริเวอร์แควร์ รีสอร์ต Mek Kiri Riverkwai Resort บ้านไร่ดารัณ โฮมสเตย์ Baan Rai Darun Home Stay เดอะ ราฟท์ แลนด์ รีสอร์ท The Raft Land Resort  
23 พฤษภาคม 2561
วัดบางกุ้ง สถานที่ท่องเที่ยวสมุทรสงคราม
ไทย

  มหัศจรรย์! โบสถ์ปรกโพธิ์ วัดบางกุ้ง จังหวัดสมุทรสงคราม (สมุทรสงคราม)   ที่อยู่ : ตำบล บางกุ้ง อำเภอ บางคนที สมุทรสงคราม 75120            'วัดบางกุ้ง' เป็นค่ายทหารเรือไทยที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่าย ที่ค่ายบางกุ้ง เรียกว่า "ค่ายบางกุ้ง"  โดยสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้งให้อยู่กลางค่าย เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นที่เคารพบูชา ของทหาร ภายหลังเสียกรุงครั้งที่ 2 ค่ายบางกุ้งก็ร้างไปจนกระทั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสิน มหาราชทรงสถาปนากรุงธนบุรี เป็นราชธานีจึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้ชาวจีนจาก ระยอง ชลบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรีรวบ รวมผู้คนมาตั้งกองทหารรักษาค่ายจึงมีชื่อเรียก อีกหนึ่งว่า "ค่ายจีนบางกุ้ง"  ในปี พ.ศ. 2311 พระเจ้ากรุงอังวะทรงยกทัพผ่านกาญจนบุรีมาล้อมค่ายจีนบางกุ้ง สมเด็จพระเจ้าตากสิน มหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระมหามนตรี (บุญมา) เป็นแม่ทัพยกไปช่วยเหลือทหารจีนขับไล่กองทัพ พม่าทำให้ข้าศึกแตกพ่าย หลังจากนั้นค่ายบางกุ้งแห่งนี้ก็ถูกปล่อยให้รกร้างเกือบ 200 ปี จนมาถึง พ.ศ.2510 กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้ตั้งเป็นค่ายลูกเสือขึ้น (ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว) และได้สร้างศาลพระเจ้าตากสินไว้เป็นอนุสรณ์   วัดบางกุ้ง - อัมพวา     สิ่งที่น่าสนใจในวัดบางกุ้ง 1. โบสถ์ปรกโพธิ์  เป็นอุโบสถหลังเดิมที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี จะถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ทั้งโพ ไทร ไกร และกร่างมอง จากภายนอกคิดว่าเป็นกลุ่มต้นไม้ใหญ่มากกว่ามีโบสถ์อยู่ข้างใน รากไม้เหล่านี้ช่วยให้โบสถ์คงรูปอยู่ได้ ทั้งยังให้้ความขรึมขลัง อีกด้วย ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐาน ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อโบสถ์น้อย (หลวงพ่อนิลมณี) และเรียกโบสถ์ว่า โบสถ์ปรกโพธิ์ และมี ภาพจิตรกรรมฝาผนัง สมัยปลายกรุศรีอยุธยาเป็นเรื่องราว เกี่ยวกับพุทธประวัติ   วัดบางกุ้ง - อัมพวา   2. หลวงพ่อนิลมณี หลวงพ่อนิลมณี หรือหลวงพ่อดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ แห่งวัดบางกุ้ง ประดิษฐานอยู่ในโบสต์ปรกโพธิ์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดใหญ่สมัยอยุธยาตอนปลาย เป็นที่เคารพบูชาของคนในท้องถิ่น ความศักดิ์สิทธิ์์ของ ท่านเลืองลือไกลไปทั่วสารทิศ ทำให้ผู้คน ต่างหลั่งไหลกันมากราบไหว้ขอพรท่านมากมาย 3. วัดบางกุ้ง  เป็นวัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยาเช่นกัน อยู่คนละฝั่งกับค่ายบางกุ้งโดยมีถนนผ่านกลาง สิ่งที่น่าสนใจในวัดนี้ได้แก่ คัมภีร์์โบราณ ส่วนมากจะเป็นตำรายาโบราณ และบริเวณหน้าวัดด้านที่ติดกับแม่น้ำแม่กลอง จะมีปลาน้ำจืดต่างๆอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จนได้ชื่อว่า "วังมัจฉา"     วัดบางกุ้ง - อัมพวา   วัดบางกุ้ง - อัมพวา     การเดินทางไปวัดบางกุ้ง   ทางรถยนต์  จากตัวเมืองสมุทรสงคราม ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 325 (แม่กลอง-อัมพวา) ประมาณ 5 กม. เลยวัดบางกะพ้อม (ยังไม่ถึงตลาดอัมพวา) ให้สังเกตทางแยกซ้ายมือ เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง (สะพานสมเด็จพระศรีีสุริเยนทร์) ตรงไปถึง ถึงสามแยกเลี้ยวขวา ตรงไปผ่านวัดภุมรินทร์ จนถึงสามแยก (มีวัดบางแคใหญ่อยู่ขวามือ) เลี้ยวขวา ตรงไปผ่านวัดบางแคน้อย วัดปากน้ำ ข้ามสะพานคลองแควอ้อมสังเกต ค่ายบางกุ้งอยู่ซ้ายมือ จะเห็นแนวกำแพงของค่าย   รถประจำทาง จากตัวเมืองสมุทรสงครามนั่งรถโดยสองแถวสายแม่กลอง-วัดปราโมทย์ คิวรถอยู่บริเวณธนาคารนครหลวงไทย สาขาสมุทรสงคราม รถจะวิ่งผ่านค่าย   ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก paiduaykan.com  
23 พฤษภาคม 2561
ปางช้างบ้านห้วยต่อ สถานที่ท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน
ไทย

  ปางช้างบ้านห้วยต่อ (แม่ฮ่องสอน)         เพลิดเพลินบนหลังช้างเข้าป่าชมความร่มรื่นของธรรมชาติโดย พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์อย่างเต็มปอด ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เดินทางจากตัวเมืองข้ามแม่น้ำปาย ผ่านพระตำหนักท่าโป่งแดง ลัดเลาะไปตามถนนก็ถึงที่หมาย    ภาพจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย                นั่งช้าง กิจกรรมในวันพักผ่อน แบบสบายสบาย ละเีมียดละไม ชมพฤกษานานาพรรณ โคลงเคลงและโยกเยก ในจังหวะของช้าง นั่งแล้วได้อะไร เพื่อให้ทั้งคนและช้างมีงานทำ หรือเพื่อความสนุกสนาน               ที่มาของชื่อจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น มาจากร่องน้ำฝึกสอนช้างนี่เอง ภาษาเหนือออกเสียง "ร" เป็น "ฮ" ปัจจุบันงดการเรียนการสอนช้างไปแล้ว เพราะศึกสงครามไม่ได้ใช้ช้าง และงานชักลากไม้็ก็ไม่มี ช้างจึงตกงาน (ดีกว่าตกมัน) ต้องอยู่กันแบบพอเพียงตามสมัยนิยม จึงได้ฝึกฝนสำหรับรองรับการท่องเที่ยว เพื่อเลี้ยงชีพทั้งควาญทั้งช้าง   ภาพจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย                 อัตราต่าบริการ ช้าง 1 เชือก ค่าบริการโดยประมาณ 600 บาท นั่งได้ 2 คน (เด็กเล็กนั่งเสริมได้) ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.  ช่วงเวลาที่เหมาะสม ยามเช้า ดูจะเป็นช่วงเวลาที่ราบรื่น บรรยากาศแจ่มใส ผ่อนคลาย ไม่เร่งรีบ ซึ่งหลังจากเสร็จกิจกรรมก็สามารถท่องเที่ยวที่อื่นได้ต่อเนื่อง ส่วนในตอนบ่ายนั้น โดยมากจะปล่อยช้างพักผ่อนและหากินอิสระ               แม่ฮ่องสอน ปัจจุบันมีปางช้างลงเหลือเพียงแห่งเดียว คือ ปางช้างบ้านห้วยต่อ อยู่ระหว่างทางไปกระเหรี่ยงคอยาว บ้านห้วยเสือเฒ่า จากตัวเมืองข้ามแม่น้ำปายไปทางพระตำหนักท่าโป่งแดง แล้วลัดเลาะไปตามถนนลาดยางเล็ก ๆ ประมาณ 20 นาที บริการทัวร์นั่งช้างสอบถามได้ที่ ทัวร์เมิงไต 053 611 979   อ.ปาย มีปางช้างเล็ก ๆ อยู่ 3 - 4 แห่ง ทั้งหมดอยู่ถนนสายใน จากวัดพระธาตุแม่เย็นไปทางโป่งน้ำร้อนท่าปาย บริการทัวร์นั่งช้างสอบถามได้ที่ ปายแอดเวนเจอร์ 053 699 385 ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย , paiduaykan.com     ที่พักแนะนำใกล้ "ปางช้างบ้านห้วยต่อ" ปายเลิฟ แอนด์ บ้านชนเผ่า รีสอร์ท Pailove & Baanchonphao Resort เฮาส์ ออฟ เลิฟ ปาย House of Love Hotel Pai บ้านปาย ริเวอร์ไซด์ Baan Pai Riverside  
23 พฤษภาคม 2561
วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว อุบลราชธานี
ไทย

  วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว (อุบลราชธานี)   ที่อยู่ : ตำบล ช่องเม็ก อำเภอ สิรินธร อุบลราชธานี 34350              วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว  หรือนิยมเรียกกันว่า วัดเรืองแสง ตั้งอยู่ที่  อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง โดยจำลองสภาพแวดล้อมของวัดป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาศ  บริเวณบนยอดเขาจะมองเห็นพระอุโบสถสีปัดทองตั้งเด่นเป็นสง่า  จุดเด่นของวัดคือ การได้มาชมภาพเรืองแสงเป็นสีเขียวของของต้นกัลปพฤกษ์ที่เป็นจิตรกรรมที่อยู่บนผนังด้านหลังของอุโบสถในยามค่ำคืน ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมาชมและถ่ายภาพคือ ตั้งแต่เวลา 6.00.19.30 น. ซึ่งหากโชคดีก็จะได้เห็นดวงดาวมากมายเต็มท้องฟ้า อีกด้วย  แต่ภาพเรืองแสงนี้หากมองด้วยตาเปล่าจะเห็นเพียงเล็กน้อย จะไม่เห็นเป็นสีเขียวชัดเจนเท่ากับภาพที่ถ่ายด้วยกล้องถ่ายภาพ เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวบางท่านที่มาเก็บภาพความงดงามผ่านสายตาต้องเผื่อใจไว้เล็กน้อย    วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว - อุบลราชธานี                 นอกจากความมหัศจรรย์ของพระอุโบสถแล้ว วัดแห่งนี้ยังมีจุดชมวิวทิวทัศน์ซึ่งเป็นวิวลำน้ำโขง และบริเวณด้านหลังพระอุโบสถเป็นจุดชม วิวทิวทัศน์ของฝั่งประเทศลาวและมองเห็นด่านสากลช่องเม็กอย่างสวยงามรวมทั้งอ่างเก็บน้ำที่ อยู่บริเวณเชิงเขาคล้ายกับทะเลสาป  โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดินเราเราจะได้เห็นพระอาทิตย์ดวงโตซึ่งเป็นบรรยากาศที่สวยงามมาก สำหรับต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง เป็นฝีมือการออกแบบของช่างคุณากร ปริญญาปุณโณ ผู้ลงมือติดโมเสกแต่ละชิ้นด้วยตัวเอง   วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว - อุบลราชธานี                  โดยมีแรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิต ในภาพยนตร์เรื่องอวตาร โดยใช้สารเรืองแสง หรือ สารฟลูออเรสเซนต์รอบต้น  คุณสมบัติของสารฟลูออเรสเซนต์จะรับแสงพระอาทิตย์ ในตอนกลางวัน พร้อมกับที่ศิลปกรรมชิ้นนี้ ได้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก หรือหันข้างไปทางทิศตะวันตก ก็เลยเหมือนเป็นฉากกั้น พลังงาน ในช่วงเวลาตอนกลางวัน แล้วจะฉายแสงออกมาในตอนกลางคืน คือเป็นการคายพลังงานออกมา  ตัวอุโบสถมีต้นแบบมาจาก วัดเชียงทอง ประเทศลาว เสาแต่ละต้นลงลวดลายด้วยมือ โดยรอบนอกเป็นลายดอกบัวและสัตว์ทั้งหลายตามคติบัว 4 เหล่า ทางเข้าเป็นต้นสาละ    ขบอคุณรุปภาพสวยๆจาก 500 px              ส่วนตัวอุโบสถมีต้นแบบมาจากวัดเชียงทอง ประเทศลาว แต่มีความกว้างมากกว่า 1 เท่า และความยาวมากกว่า 2 เท่า เสาแต่ละต้นลง ลวดลายด้วยมือ โดยรอบนอกเป็นลายดอกบัวและสัตว์ทั้งหลายตามคติบัว 4 เหล่า หัวใจหลักของการทำพุทธศิลป์ คือ การนำเสนอ งานศิลปะที่เกิดจากความสงบ ความเพียร ความอดทน และวิสัยทัศน์ งานแต่ละชิ้นต้องคิดจากความคิดอันวิจิตรและขบคิดมาก่อนทั้งสิ้น                     อย่างแนวคิดการจำลองให้วัดเป็นเขาพระสุเมรุ  ตรงกลางของพระอุโบสถ เป็นที่ตั้งของพระประธาน แต่เดิมที่คล้ายกับพระพุทธชินราช ในจังหวัดพิษณุโลก แต่มีการนำเพียงส่วนรัศมีออกไป เพื่อให้แลดูกลมกลืนกันยิ่งขึ้น พร้อมกับได้ทำฉากหลังเป็นต้นโพธิ์ โดยเบื้องบนติดด้วยแผ่นพระทอง   ขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก off ab (stract)               ส่วนการสร้างวัดนั้น ท่านพระอาจารย์บุญมากเป็นผู้ริเริ่ม ท่านเป็นคนฝั่งลาวจำปาสักเข้ามาเผยแพร่อบรมสมาธิทางฝั่งไท และได้ปักกลด ที่ภูพร้าวแห่งนี้ในปี 2497-2498 ต่อมาปี 2516ท่านได้ขอบิณฑบาตพื้นที่ให้เป็นวัดจากทางหน่วยทหารและทางราชการอ.พิบูลมังสาหาร ทางอำเภอจึงให้ตั้งชื่อวัดว่า วัดสิรินธรวราราม หลังจากนั้นท่านพระอาจารย์บุญมากต้องกลับประเทศลาว ทิ้งให้วัดร้างหลายสิบปี จนกระทั่งปี 2542 พระครูกมล ลูกศิษย์ของท่านได้ค้นพบวัดอีกครั้งและบูรณะให้กลับมาเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมได้ดังเดิม หลังจาก พระครูกมลละสังขารไปในปี 2549 พระครูปัญญาก็เข้ามารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดและสานต่องานสร้างวัดต่อไป อย่างต้นกัลปพฤกษ์ เรืองแสงเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปีที่แล้ว ส่วนพระอุโบสถยังมีการแต่งเติมอยู่เรื่อยๆ   วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว - อุบลราชธานี   การเดินทางไปวัดสิรินธรวรารามภูพร้าว       รถยนต์ส่วนตัว  จากตัวเมืองอุบลไปยังอำเภอสิรินธรใช้เส้นทางเดียวกับทางไปด่านช่องเม็ก จนเลยเขื่อนสิรินธรก่อนถึงช่องเม็กประมาณ 2 กม.จะเจอ ที่กลับรถ สังเกตุด้านซ้ายมือจะเห็นป้ายวัด ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย , paiduaykan.com    
23 พฤษภาคม 2561
วิหารเทพวิทยาคม วัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา
ไทย

  วิหารเทพวิทยาคม วัดบ้านไร่ (นครราชสีมา)   ที่อยู่ : ตำบล กุดพิมาน อำเภอ ด่านขุนทด นครราชสีมา 30210     “กูจะทำให้ชาวบ้าน เพื่อตอบแทนข้าวน้ำ ที่เขาให้กูกินทุกวัน”  ... จากปณิธานของ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่ต้องการให้ชาวบ้านมีกินมีใช้ มีงานทำตลอดไป วิหารเทพวิทยาคม ณ วัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา จึงจัดสร้างขึ้นด้วยเจตนาบริสุทธิ์ของบรรดาศิษยานุศิษย์ที่มีศรัทธาอันมั่นคงต่อเจตนารมณ์ และวัตรปฏิบัติซึ่งรักษาและธำรงไว้ซึ่งหลักธรรมของพระพุทธเจ้า พร้อมมุ่งเผยแพร่พระพุทธศาสนาของ หลวงพ่อคูณ พระสงฆ์ผู้มีทานบารมีสูงส่ง อีกทั้งเพื่อต้องการให้ “วัดบ้านไร่” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนา วัฒนธรรม และศิลปกรรมอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา   ขอบคุณรุปภาพจาก travel.kapook.com             สำหรับ วิหารเทพวิทยาคม หรือ วิหารปริสุทธปัญญา เป็นอุทยานธรรมกลางบึงน้ำขนาดใหญ่ของวัดบ้านไร่ ก่อสร้างขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะให้เป็นมหาวิหารแห่งพระไตรปิฎก หรืออีกนัยหนึ่งคือ ดินแดนที่รวบรวมพุทธประวัติ พระวินัย และพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงไว้ทั้งหมด และเพื่อจรรโลงพระศาสนาให้เป็นไปตามปัจฉิมวาจาของพระพุทธองค์ก่อนเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานที่ว่า “แท้จริงแล้ววินัยที่เราได้บัญญัติแก่ท่านทั้งหลายก็ดี ธรรมที่เราได้แสดงแล้วแก่ท่านทั้งหลายก็ดี เมื่อเราล่วงไปแล้ว ธรรมและวินัยเหล่านั้นจะเป็นศาสดาของท่านทั้งหลาย” ดังนั้นมหาวิหารแห่งนี้จึงเป็นสถานที่แห่งแรกและแห่งเดียวในโลกที่นำเอาพระไตรปิฎกมาแสดงและให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป            วิหารเทพวิทยาคม เป็นสิ่งปลูกสร้างสูง 5 ชั้น กลางบึงน้ำวัดบ้านไร่ มีความกว้าง 60 เมตร ยาว 60 เมตร เป็นปริมณฑล อาคารสิ่งก่อสร้างองค์กลางมีขนาดกว้าง 30 เมตร ยาว 30 เมตรโดยประมาณ ความสูง 42 เมตร ซึ่งแต่ละชั้นประกอบด้วย   ขอบคุณรุปภาพจาก travel.kapook.com       ชั้นใต้ดินของวิหารเทพวิทยาคม            ชั้นใต้ดินของวิหารเป็นส่วนจัดแสดงและให้ผู้เข้าชมได้เลือกรับของที่ระลึกจากเงินทำบุญของท่านผู้เข้าชมเอง บรรยากาศโดยรอบจัดตกแต่งให้เสมือนท่านได้อยู่ในท้องนทีอันศักดิ์สิทธิ์ หรือโลกใต้บาดาล โดยของที่ระลึกอันเป็นมงคลนั้น ผู้เข้าชมสามารถเลือกได้ตามความหมายอันเป็นสิริมงคลตามที่ท่านต้องการ ซุ้มของที่ระลึกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ    ส่วนแรก ๆ คือ บริเวณโถงกลาง เรียกว่า ซุ้มของที่ระลึก เพชร 7 สี มณี 7 แสง เป็นการบูชาลูกปัดสีต่าง ๆ โดยเลือกเสี่ยงทายตามสถานะหรืออาชีพการงานของบุคคลนั้น ๆ    ส่วนที่ 2 รายล้อมโซน เพชร 7 สี มณี 7 แสง ประกอบไปด้วย เจ็ดสิ่งนำโชคในโลกใต้บาดาล อันมีความหมายมงคลตามความเชื่อจากหลากหลากประเทศในโลก ได้แก่            1. มังกร+ลูกแก้ว : ขอพรและคำทำนาย เรื่องความมีโชคลาภ วาสนา            2. พญานาค : ขอพรและคำทำนาย เรื่องร่ำรวยเงินทอง            3. ปลาอานนท์ : ขอพรและคำทำนาย เรื่องสุขภาพ ความแข็งแรง มีกำลัง            4. จระเข้ : ขอพรและคำทำนาย เรื่องการสะสมบุญ ความเมตตา เพื่อจะได้รับเมตตาจากเจ้านายและเป็นที่รัก            5. พญาเต่า : ขอพรและคำทำนาย เรื่องอายุยืน            6. ปลาม้าน้ำ : ขอพรและคำทำนาย เรื่องชีวิตคู่ยาวนาน สันติภาพ มิตรภาพ            7. ปะการังแดง : ขอพรและคำทำนาย เรื่องเดินทางปลอดภัย   วิหารเทพวิทยาคม วัดบ้านไร่ - นครราชสีมา     ชั้น 1 วิหารเทพวิทยาคม            “ภาพพุทธประวัติและต้นโพธิ์อธิษฐาน" ความงามสุดแล้วแต่ปัจเจกมอง แต่ความหมายยิ่งใหญ่แห่งพุทธประวัติ...คงอยู่ชั่วกาลนาน            ภาพที่ 1 พุทธอนุโมทนา (ประสูติ)            ภาพที่ 2 พุทธปัญญา (ตรัสรู้)            ภาพที่ 3 พุทธปาฏิหาริย์ (เผยแผ่พระพุทธศาสนาแด่เหล่าเทวดา)              ภาพที่ 4 พุทธบารมี (เผยแผ่พระพุทธศาสนาแด่เหล่ากษัตริย์และนักบวช)            ภาพที่ 5 พุทธปีติ (เผยแผ่พระพุทธศาสนาแด่ชาวบ้าน หมู่มาร และนักบวช)            ภาพที่ 6 ปฐมพุทธศาสน์ (ปรินิพพาน)            ทั้งนี้ เพดาน ภายในห้องจัดแสดงภาพพระพุทธประวัติและต้นโพธิ์อธิษฐาน แสดงถึงบารมีแห่งพระพุทธองค์ เมื่อทรงตรัสรู้แล้วแผ่ไพศาลไปทั่วจักรวาลบรรยากาศ ค่อย ๆ สูงขึ้น จนเหนือชั้นฟ้า เหนือเมฆ ไปจนอสงไขย ไม่มีที่สิ้นสุด   ขอบคุณรุปภาพจาก travel.kapook.com       ชั้น 2 วิหารเทพวิทยาคม            “พระวินัยปิฎก นิทรรศการ พระราชาผู้ทรงธรรม และห้องโถงแห่งธรรม"            โดยรอบนำเสนอเรื่องราวของพระวินัยปิฎก และวิวัฒนาการพระพุทธศาสนา หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน อาทิ ศีล 227 ข้อ และเรื่องราวของนิกายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการตีความพระวินัยและพระธรรมคำสอนในหลากหลายแง่มุม ส่วนพื้นที่สงบเงียบตรงกลางนั้นเป็นพื้นที่โล่งให้สาธุชนได้อธิษฐานจิต เพื่อเป็นกุศลแก่ตนเอง            ส่วนห้องบริเวณเศียรช้าง เป็นห้องพระราชาผู้ทรงธรรม อันจะเนรมิตให้เป็นนิทรรศการเพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของพวกเรา ซึ่งท่านคือผู้นำแนวทางแห่งอริยสัจ 4 มาดำเนินเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้พ้นทุกข์ อันจะได้เห็นจากโครงการในพระราชดำริที่เกิดขึ้นมากมาย เพื่อให้ปวงชนได้พ้นจาก “ความจน” มาเป็น “ความพอ”   ขอบคุณรุปภาพจาก travel.kapook.com       ชั้น 3 วิหารเทพวิทยาคม            "เรื่องราวของพระธรรมปิฎก พระธรรมขันธ์"            จิตรกรรมวิจิตรบนเพดานชั้น 3 เป็นใบโพธิ์มากกว่า 84,000 ใบ เพื่อสอดแทรกคำสอนเรื่องของความเพียร เรียนรู้พระธรรม และยังเป็นเครื่องเตือนใจพุทธศาสนิกชนว่า พระองค์มิได้มุ่งแต่ถ่ายทอดแก่นพระธรรมตามที่พระองค์ทรงตรัสรู้ หากแต่สั่งสอนพระธรรมตามจริตของผู้สดับธรรมนั้น ๆ ด้วย ดังนั้น พระธรรมของพระพุทธเจ้าทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์นั้นเพื่อสั่งสอนผู้คนตามจริต ซึ่งจริตของแต่ละปัจเจกนั้นมิได้เหมือนกันเป็นแบบแผนเดียวกัน การเผยแพร่พระธรรมจึงมิได้มุ่งแต่เพียงเผยแพร่แก่นด้วยวิธีเดียว แต่วิธีในการเผยแพร่ต่อ แต่ละบุคคลก็มีความสำคัญในการที่จะทำให้บุคคลนั้น ๆ เข้าใจซึ่งพระธรรมด้วย     ชั้นดาดฟ้า วิหารเทพวิทยาคม            "ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ และรูปหล่อปิดทองคำหลวงพ่อคูณ"            ณ ชั้นบนสุดของหอเทพวิทยาคม ประดิษฐานพระพุทธรูปและรูปหล่อหลวงพ่อคูณปิดทองคำ มองสู่เบื้องล่างเพื่อประสาทพรแก่สาธุชนชั่วกาลนาน            นอกจากนี้ บริเวณรอบ ๆ วิหารเทพวิทยาคมยังมีเทพพญาสัตว์ต่าง ๆ ให้ได้ชมกัน เพื่อเป็นปริศนาธรรมให้ค้นหา เช่น พญานาค เปรียบเสมือนโอบอุ้มธรรมะของพระพุทธเจ้า สะพานพญานาคคือ ทางเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับโลกธรรมะ, เทพจำแลง สุนัข 3 หัวเฝ้าประตูนรก แต่ละตัวมีชื่อว่า อนิจจัง ทุกขัง และ อนัตตา ซึ่งมีความหมายแห่งการปล่อยวาง, พญาแร้ง สะท้อนให้ระลึกถึงกิเลสที่ชอบซุกอยู่ในใจคนมากที่สุดคือ โลภะ โทสะ และช้างเอราวัณ เป็นต้น   ขอบคุณรุปภาพจาก travel.kapook.com       ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ต้องมาสัมผัส            วิหารเทพวิทยาคม ประกอบขึ้นด้วยโมเสกมากกว่า 20 ล้านชิ้น และใช้แรงงานชาวบ้านเป็นผู้ติดอย่างละเอียดด้วยจิตศรัทธาและสมาธิ เพราะ 1 วัน 1 คน สามารถติดเซรามิกโมเสกชิ้นเล็กที่สุดเท่าเม็ดถั่วเขียวได้เพียงไม่เกิน 1 ตารางเมตร            อย่างไรก็ตามสำหรับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่สนใจขอเข้าชม ให้ส่งหนังสือแจ้งความจำนงพร้อมจุดประสงค์ในการเข้าชมล่วงหน้า 1 สัปดาห์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่และทีมงานมัคคุเทศก์น้อย จัดสรรเวลาและเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกในทุกด้าน ส่วนกิจกรรมบุญอิเล็กทรอนิกส์ตามจุดต่าง ๆ ภายในวิหาร กำหนดให้ใช้บัตรเติมบุญ เริ่มต้นความศรัทธาราคา 30 บาท โดยจะเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.    การเดินทาง            จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) มุ่งหน้าสู่จังหวัดสระบุรี ประมาณ 75 กิโลเมตร ถึงตัวเมืองสระบุรี เมื่อถึงตัวเมืองสระบุรีแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา ประมาณ 89 กิโลเมตร จะถึงเขื่อนลำตะคอง ขับตรงไปอีกประมาณ 14 กิโลเมตร จะพบกับป้ายบอกทางถนนสาย 201 กับถนนสาย 24 ให้เลี้ยวซ้ายไปทางถนนสาย 201 (ไปจังหวัดชัยภูมิ) จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่อำเภอด่านขุนทด พอถึงอำเภอด่านขุนทดให้ท่านขับตรงไปอีก จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย 2217 จากนั้นขับตรงไป ประมาณ 11 กิโลเมตร ก็จะถึง "วัดบ้านไร่"   ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย , travel.kapook.com    
23 พฤษภาคม 2561
วัดป่าภูก้อน พุทธสถานท่ามกลางธรรมชาติ จ.อุดรธานี
ไทย

  วัดป่าภูก้อน วัดป่าแห่งการวิปัสสนา (อุดรธานี)   ที่อยู่ : ตำบล บ้านก้อง อำเภอ นายูง อุดรธานี 41380            วัดป่าภูก้อน พบกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมแห่งพุทธศิลป์และความเงียบสงบของ "วัดป่าภูก้อน" วัดป่าแห่งภาคอีสาน ที่คงรักษาไว้ซึ่งพื้นป่า สัตว์ป่า และพรรณไม้นานาชนิด บนเนื้อที่กว่า 3,000 ไร่       วัดป่าภูก้อน - อุดรธานี              วัดป่าภูก้อน...  ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นรอยต่อ 3 จังหวัด คือจังหวัดอุดรธานี จังหวัดเลย และจังหวัดหนองคาย วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2530 ซึ่งจุดประสงค์หลักของการสร้างวัดคือต้องการปลูกป่าทดแทนเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมกว่า 750 ไร่ รวมถึงการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่อยู่โดยรอบวัด เพื่อใช้เป็นพื้นที่ปฏิบัติธรรมอย่างถูกต้องตามระเบียบของกรมป่าไม้ และได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออาศัยอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อจัดตั้งพุทธอุทยาน จนวัดแห่งนี้ได้รับขนานนามว่า "พุทธอุทยานมหารุกขปาริชาติภูก้อน"   ขอบคุณรุปภาพจาก travel.kapook.com               ด้วยอาณาเขตความกว้างของวัด ประกอบกับที่กรมป่าไม้ให้วัดป่าภูก้อนได้ดูแลงานด้านป่าไม้ จนทำให้วัดป่าภูก้อนแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 3,000 ไร่ เพื่อรักษาป้องกันไฟป่าและการบุกรุกทำลายป่าล่าสัตว์ อีกทั้งวัดป่าภูก้อนยังมีความเงียบสงบ จึงเหมาะสำหรับเป็นที่บำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐาน ตลอดจนการสร้างพระมหาเจดีย์นามว่า "พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์" เพื่ออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นประดิษฐานในสถานที่อันสมควรสักการะ   ขอบคุณรุปภาพจาก travel.kapook.com              สำหรับไฮไลท์อันเป็นเอกลักษณ์ของวัดป่าภูก้อน คือโครงสร้างการออกแบบทางสถาปัตยกรรมขององค์พระพุทธรูปหินอ่อน พระวิหาร ศาลาราย และอาคารรอบลานเขา โดยพระวิหารมีลักษณะสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์              ภาพภายในพระวิหารตกแต่งด้วยพุทธประวัติ พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนีหินอ่อนสีขาว ความยาว 20 เมตร เป็นหินอ่อนที่มีความสวยงามและทนทานที่สุด รวมระยะเวลาในการสร้างทั้งหมด 6 ปี เนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ พระพุทธไสยาสน์นี้จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งพุทธศิลป์ของรัชกาลที่ 9   วัดป่าภูก้อน - อุดรธานี                 วัดป่าภาคอีสานแห่งนี้จึงมีความน่าสนใจ ทั้งในด้านโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงพุทธศิลป์ที่ร่วมสมัย ขณะเดียวกันก็คงไว้ซึ่งรสพระธรรมคำสอนสำหรับพุทธศาสนิกชนผู้ที่ต้องการนั่งวิปัสสนากรรมฐาน ขัดเกลาจิตใจอีกด้วย หากมีโอกาสก็อย่าลืมแวะเวียนไปสัมผัสกันดูนะคะ   photo by chutchaval Duangsala      วัดป่าภูก้อน อุดรธานี        "วัดป่าภูก้อน" ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ท้องที่บ้านนาคำ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี อันเป็นรอยต่อแผ่นดิน 3 จังหวัด คือ อุดรธานี เลย และหนองคาย เกิดขึ้นจากพุทธบริษัท ที่ตระหนักถึงคุณประโยชน์ของธรรมชาติและป่าต้นน้ำลำธาร ซึ่งกำลังถูกทำลาย และเพื่อตามรอยพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการรักษาความสมบูรณ์ของป่าไม้ต้นน้ำลำธาร สัตว์ป่า และพรรณไม้นานาพันธุ์ ให้เป็นมรดกของลูกหลานไทยคู่กับแผ่นดินไทย วัดป่าภูก้อน จะเป็นสถานที่ที่สงบเหมาะแก่การบำเพ็ญภาวนาของพระสายกรรมฐาน    ขอบคุณรุปภาพจาก travel.kapook.com                 พระวิหารที่สวยงามสะดุดตาของวัดป่าภูก้อน ได้รับออกแบบวิศวกรรมโครงสร้าง องค์พระพุทธรูปหินอ่อน พระวิหาร ศาลาราย และอาคารรอบลานเขา โดยพระวิหารมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์ มีประตูทางเข้าออกวิหาร 3 ด้าน ภายในถูกตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา แฝงไปด้วยเรื่องราวคำสอนของพระพุทธเจ้า รอบผนังภายในวิหารตกแต่งอย่างสวยงามด้วย ภาพพุทธประวัติและภาพทศชาติ ตกแต่งเป็นภาพปั้นนูนต่ำหล่อด้วยทองแดงจำนวน 22 ช่อง ซึ่งเป็นภาพของพระพุทธเจ้าในองค์ชาติต่างๆ 10 ชาติ เป็นการสื่อความหมายถึงการสั่งสมบารมีด้วยความพรากเพียร และความเสียสละของพระองค์ในทุกๆชาติ โดยด้านบนของทุกภาพ แกะสลักบทสวดอิติปิโสช่องละท่อนด้วยสีเขียวเข้มบนหินอ่อนขาวถือเป็นผนังพระวิหารที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร   ขอบคุณรุปภาพจาก travel.kapook.com              ภายในวัดมีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุ ในพระเกศพระร่วงโรจน์ศรีบูรพา ซึ่งเป็นประธานประดิษฐานหน้าองค์พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์ มีพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี  พระพุทธไสยาสน์หินอ่อนสีขาว ความยาว 20 เมตร สร้างด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี ที่นำมาเรียงซ้อนกันถึง 42 ก้อน   ซึ่งเป็นหินขาวอ่อนที่มีความสวยงามและทนทานมากที่สุด ใช้ระยะเวลาในการสร้างถึง 6 ปี สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา ในปี 2554 คณะพุทธบริษัทวัดป่าภูก้อนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน จึงมีการจัดสร้างพระพุทธไสยาสน์องค์นี้ขึ้น ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ทางพุทธศิลป์แห่งรัชกาลที่ 9            นอกจากพระวิหารและพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนีที่เป็นจุดเด่นของวัดป่าภูก้อนแล้ว ยังมี พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์ ที่อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกันถัดมาทางด้านล่างก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และรูปปั้นหินอ่อนของเหล่าเกจิอาจารย์ชื่อดังของประเทศไทย ซึ่งมีศิษยานุศิษย์อยู่มากมาย โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางขึ้นบันไดยาวเพื่อเข้ามายังเจดีย์เพื่อเข้าไปสักการะบูชา แม้จะสร้างขึ้นได้ไม่นานแต่ที่นี่ถูกยกให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนชาวอีสานอีกหนึ่งแห่ง   ขอบคุณรุปภาพจาก travel.kapook.com   ขอบคุณรุปภาพจาก travel.kapook.com      การเดินทางไปวัดป่าภูก้อน            การเดินทาง เมื่อมาถึง อุดรธานี ให้ออกทางหลวงเส้นจังหวัดหนองคาย ไปถึงหลักกิโมลเมตรที่ 13 แยกซ้ายไป อ.บ้านผือ อ.นายูง จนถึง บ.นาคำใหญ่ จะมีทางเลี้ยวเข้าวัดป่าภูก้อน รวมแล้วระยะทางจากตัวเมืองอุดรธานี ถึงวัดป่าภูก้อน 125 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที รถทุกชนิดสามารถขึ้นได้ยกเว้นรถบัสคันใหญ่ต้องจิดไว้ตรงปากทางขึ้นแล้วใช้บริการรถสองแถวขึ้นไปยังวัด เสียค่าบริการ คนละ 20 บาท   ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย , ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก travel.kapook.com , paiduaykan.com  
23 พฤษภาคม 2561


10 ร้านอาหารแนะนำในพัทยา
อาหาร
      มาถึง ‘พัทยา’ ทั้งที ต้องลิ้มลองร้านอาหารเจ้าดังกันหน่อยค่ะ ที่นี่มีร้านอาหารซีฟู้ด อาหารไทย และอาหารนานาชาติมากมาย ชนิดที่ว่ามีให้ได้เลือกทานกันทุกแบบทุกสไตล์ มาทำความรู้จักที่นี่ให้มากขึ้น ผ่านมื้ออาหารสุดอร่อย ของเหล่าบรรดาร้านเด็ดที่คุณไม่ควรพลาด!     1.Bali Hai Sunset Restaurant Pattaya     บาลีฮาย ซันเซ็ท.. ร้านเด็ดริมทะเล ตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตา พร้อมฟังเสียงคลื่นกระทบชายฝั่งและชมพระอาทิตย์ตกดินยามเย็นได้บรรยากาศธรรมชาติสุดๆ ในส่วนของเมนูอาหารก็ไม่ธรรมดาค่ะ ปรุงออกมากอย่างลงตัว รสชาติอร่อย หน้าตาดูดี สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของซีฟู้ดทุกคำ รับรองไม่มีผิดหวังแน่นอน   Source: https://www.facebook.com/balihaisunsetpattaya Location:      2.The Glass House Pattaya     ‘The Glass House Pattaya’ ร้านอาหารสบายๆ ริมชายหาดส่วนตัว บรรยากาศดีไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน เพราะมีโซนให้เลือกนั่งหลากหลาย พร้อมชมวิวทะเลรอบด้านจากเรือนกระจก ฟังเพลงแจ๊สเบาๆ เคล้าอาหารมื้ออร่อย ยิ่งช่วงกลางคืน ยิ่งแสนจะโรแมนติก เหมาะแก่การพาคู่รักมานั่งดื่มไวน์และทานอาหารทะเล อิ่มแล้วก็ชวนกันนั่งนับดาวริมชายหาด ท่ามกลางแสงไฟสลัว เมนูแนะนำ: ปลาหมึกไข่ทอดราดกระเทียมพริกไทย, ปลาเก๋านึ่งราดซีอิ๊วปรุงรส, ลาเวเค้ก เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมวานิลา เปิด: ทุกวัน 11.00 – 24.00 น. Source: http://www.glasshouse-pattaya.com Location:      3.The View Beach Bar & Restaurant Source: https://www.facebook.com/TheViewBeachBarRestaurant     อีกหนึ่งร้านที่วิวดีสมชื่อ ‘The View Beach Bar and Restaurant’ ร้านสุดเก๋ที่เนรมิตที่นั่งริมทะเลสุดชิลล์บนชายหาด ให้คุณและคู่รักได้สัมผัสบรรยากาศริมทะเลอย่างใกล้ชิด พร้อมเมนูซีฟู้ดฟิวชั่นและมุมถ่ายรูปสวยๆ ที่ให้คุณได้ฟินกันตลอดทั้งคืน เมนูแนะนำ: ปลากะพง, กั้งผัดพริกเกลือ, Pink Delight Cocktail Source: http://www.tnews.co.th Location:        4.Sense of the sea     ‘Sense of the sea’ คู่รักที่อยากนั่งชิลล์ริมชายหาด สัมผัสบรรยากาศดีๆ ชมวิวและพระอาทิตย์ตกดิน เคล้ากับเสียงเพลงและอาหารสุดอร่อย ที่นี่ไม่ว่าจะนั่งมุมไหนก็รู้สึกโปร่งโล่ง เนรมิตเมนูอาหารไทยและอาหารนานาชาติ และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ และค็อกแทลให้เลือกสรรมากมาย เมนูแนะนำ: ห่อหมกมะพร้าวอ่อน, ต้มยำกุ้ง, สปาเกตตี้กุ้งแม่น้ำ, Cocktail Sense of the sea สูตรเฉพาะของทางร้าน Source: https://www.wongnai.com Location:      5.Mantra Restaurant & Bar     สัมผัสความหรูหราและมีสไตล์ ที่ตกแต่งหลากหลายวัฒนธรรมและเชื้อชาติ ‘Mantra Restaurant & Bar’ ที่สุดของร้านอาหารที่เหมาะกับโอกาสพิเศษสำหรับคุณและคนรัก เพื่อดื่มด่ำการฉลองในบรรยากาศสวยๆ ดินเนอร์ใต้แสงเทียน ที่สำคัญอาหารยังอร่อยและมีหลายสไตล์ทั้งจีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น, ไทย และเมดิเตอร์เรเนียนฟู้ด การตกแต่งแต่ละจานออกมาดูน่ารับประทานสุดๆ เมนูแนะนำ: Chicken Tikka Maki, Codfish Saltimbocca with Aflantic cod wrapped in parma ham เปิด: ทุกวัน 17.00 – 01.00 น. Source: https://www.facebook.com/mantra.pattaya Location:      6.ริมผาลาภิน       ใกล้กับสวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์คมีร้านอาหารขึ้นชื่อ นักท่องเที่ยวนิยมมาทานกันมาก โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ร้านที่ว่าคือ ‘ริมผาลาภิณ’ ร้านอาหารบรรยากาศหรูสไตล์ไทยล้านนา ตัวร้านสร้างบนเรือนไม้ใต้ถุนสูง จัดแบ่งโซนพื้นที่เป็นสัดส่วน ทั้งโซนบ้าน ริมหาด หรือในสวน พร้อมด้วยอาหารไทย ซีฟู้ด ยุโรป ที่ใครมาทานต่างก็ต้องติดใจ เมนูแนะนำ: ปลากะพงทอดน้ำปลา, ปูนิ่มทอดกระเทียมพริกไทย, ยำปูม้าสด, ปูผัดผงกะหรี่ เปิด: จ-ศ 16.00 – 24.00 น. / ส-อา 14.00 – 24.00 น. Source: http://www.tnews.co.th Location:        7.มุมอร่อยนาเกลือ     ‘ร้านมุมอร่อย’ ร้านอาหารทะเลที่อร่อยสมชื่อค่ะ การตกแต่งเน้นสบายๆ ให้ความรู้สึกดี ร่มรื่นด้วยต้นไม้และลมเย็นจากไอทะเล มีสระว่ายน้ำอยู่กลางร้าน นั่งทานอาหารซีฟู้ด พร้อมฟังเสียงน้ำทะเลกระทบฝั่ง ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก ไม่ว่าจะมาอีกกี่ครั้งก็ไม่เบื่อเลยค่ะ เมนูแนะนำ: ส้มตำปูม้า, ส้มตำปลากะพง, ปลากะพงทอดราดน้ำปลา, กั้งกระดานทอดกระเทียม, กุ้งแม่น้ำสะดุ้งไฟ, ปลาหมึกผัดไข่เค็ม, ยำตะไคร้ฟู เปิด: ทุกวัน 11.30 – 23.00 น. Location:      8.ปูเป็น     ร้านซีฟู้ดอันเลื่องชื่อของเมืองพัทยา ใครมาพัทยาก็ต้องมาลิ้มลองความอร่อยกันค่ะ โดดเด่นเรื่องรสชาติและบรรยากาศทะเล๊ทะเล นอกจากนี้ที่นี่ยังร่ำลือถึงความสดใหม่ของอาหาร รวมถึงความอร่อยที่ได้ทานแล้วจะต้องติดใจ เมนูแนะนำ: เมนูปูทุกชนิด, ปลากะพงทอดน้ำปลา, ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว, กุ้งเผา เปิด: 09.30 – 22.30 น. Source: http://gis.pattaya.go.th Location:      9.Sketch Book Art Café     ร้านอาหารและกาแฟแสนร่มรื่น เพียงแค่เข้ามาก็สัมผัสได้ถึงธรรมชาติในแบบที่คาดไม่ถึงว่าจะมีร้านเช่นนี้ใจกลางเมืองพัทยา สิ่งที่โดดเด่นคือการตกแต่งที่ดูสบายเหมือนบ้าน ประดับประดาด้วยงานศิลปะและต้นไม้เขียวขจี ภายในร้านมีมุมสอนวาดภาพ พร้อมอุปกรณ์ไว้ให้ครบ เหมาะสำหรับหนุ่มสาวผู้มีใจรักศิลปะ   Source: https://www.facebook.com/Sketch-BOOK-Art-cafe Location:      10.The Sky Gallery     ปิดท้ายด้วยร้านอาหารบรรยากาศดีเว่อร์ ด้านหลังโรงแรมโคซี่บีช พัทยา ภายในร้านเป็น Open Air ทั้งหมด ให้คุณได้นั่งรับประทานอาหารริมหาดทราย โดยมีวิวสวยของน้ำทะเลใส ท้องฟ้ากว้างเป็นจุดพักสายตา ไม่ว่าจะนั่งมุมไหนของร้านก็สวยไม่มีใครยอมใคร โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตก ภาพตรงหน้าเรียกว่าสวยจนเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมจริงๆ   Source: http://www.painaidii.com Location:     ร้านอาหารแนะนำอื่นๆ ที่น่าสนใจ 
31 พฤษภาคม 2561
10 ร้านอาหารแนะนำในเขาใหญ่
อาหาร
    มาถึง ‘เขาใหญ่’ ทั้งที ต้องลิ้มลองร้านอาหารเจ้าดังกันหน่อยค่ะ ที่นี่มีร้านอร่อยมากมาย ชนิดที่ว่ามีให้ได้เลือกทานกันทุกแบบทุกสไตล์ ทั้งของหวาน ของคาว รวมถึงร้านกาแฟก็เด็ดไม่แพ้กัน มาทำความรู้จักที่นี่ให้มากขึ้น ผ่านมื้ออาหารสุดอร่อย ของเหล่าบรรดาร้านเด็ดที่คุณไม่ควรพลาด!     1. The Chocolate Factory     แดนสวรรค์ของคนรักช็อคโกแลต ที่นี่เป็นร้านน้องใหม่ที่กำลังมาแรง โดดเด่นด้วยการออกแบบแนวสโมคเฮ้าส์ มีกระจกกั้น ทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ด้านนอกได้อย่างชัดเจน บรรยากาศดูอบอุ่น ได้กลิ่นอายโรงงานนิดๆ เสิร์ฟช็อคโกแลตสดใหม่ทุกวัน จากฝีมือเชฟชาวฝรั่งเศสผู้เชี่ยวชาญ       Location:       2. Dairy Home     ร้านดังในตำนานที่ขึ้นชื่อเรื่องไอศกรีมโฮมเมดและโยเกิร์ตนมจากฟาร์มออร์แกนิกปลอดสาร พร้อมเมนูสเต็กสูตรใหมที่โดนใจนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย พร้อมผลิตภัณฑ์ปลอดสารและเบเกอรี่สดใหม่ เหมาะกับคนรักสุขภาพเป็นที่สุด   Location: ​      3. Big Mount Khaoyai     หรือ ‘ครัวภาคกลาง’ ร้านอาหารบรรยากาศโมเดิร์นสไตล์ ท่ามกลางขุนเขาและสายหมอก มีทั้งแบบโอเพ่นแอร์และแบบห้องแอร์ด้านใน เหมาะสำหรับครอบครัวพากันมารับประทานอาหารร่วมกัน เมนูของทางร้านเน้นความแปลกใหม่ รสชาติอร่อยแบบต้นตำรับ ได้ทานแล้วต้องติดใจอย่างแน่นอน   Location: ​      4. ร้านครัวผู้ใหญ่ลี ร้านอาหารไทยภายในภูภัทรา รีสอร์ท เน้นบรรยากาศสบายๆ ล้อมรอบด้วยธรรมชาติและขุนเขา ภายในดีไซน์แบบเปิดโล่งรับลมเย็น บรรยากาศเป็นกันเอง เมนูอาหารของทางร้านมีทั้งอาหารไทย อาหารอีสาน และอาหารนานาชาติ การันตีคุณภาพและความอร่อยจากนักท่องเที่ยวที่กลับมาทานอีกเรื่อยๆ Location: ​      5. ครัวน่านน้ำ     ร้านอาหารบรรยากาศสบายริมน้ำ เปิดให้บริการมานานกว่า 25 ปี มีเมนูอาหารไทย อาหารจีน และอาหารอีสานคุณภาพ ตกแต่งสไตล์คันทรี เหมาะแก่การรับประทานอาหารในวันหยุดพักผ่อนกับครอบครัว   Location: ​      6. บ้านไม้ชายน้ำ     ร้านอาหารเจ้าดังในเขาใหญ่ วิวสวยริมน้ำ เหมาะแก่การถ่ายภาพสุดประทับใจ ร้านนี้เกิดจากความรักในการสะสมของเก่าของเจ้าของร้าน ให้คุณเพลิดเพลินคล้ายกับการเดินชมพิพิธภัณฑ์ ภายในมีบรรยากาศตกแต่งสวยงาม พร้อมเมนูแสนอร่อยถูกปากนักท่องเที่ยวจริงๆค่ะ   Location: ​      7. Yellow Submarine     ร้านกาแฟสุดชิคที่มีบรรยากาศกลมกลืนไปกับธรรมชาติโดยรอบ ตกแต่งแบบ Open Air เปิดโล่ง มองเห็นวิวทิวทัศน์ในระยะไกล มีภูเขาอยู่เบื้องหลัง ด้านหลังเป็นบาร์แบบสวนเปิดโล่งเช่นกัน ให้คุณได้จิบกาแฟและสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่ หรือถ้าอยากหลบร้อน ทางร้านก็มีมุมห้องแอร์ไว้บริการเช่นกันค่ะ   Location: ​      8. Mew Khaoyai     คาเฟ่เปิดใหม่ท่ามกลางบรรยากาศสวนสวย ให้บริการเมนูขนม เครื่องดื่ม และอาหารสไตล์โฮมเมดที่ใส่ใจในวัตถุดิบ โดยเฉพาะเมนูกาแฟที่คัดสรรเมล็ดกาแฟ Blend สูตรเฉพาะ และเมนูชาที่คัดเลือกใบชาจากต้นตำรับท้องถิ่น นอกจากนี้ทางร้านยังจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ร่วมสร้างความสุข พร้อมมุมของขวัญของฝากไว้บริการด้วย   Location: ​      9. ยุ้งข้าว เขาใหญ่     ร้านอาหารบริการอาหารไทยสุดอร่อยและน่าทานมาก ตกแต่งแบบธรรมชาติแฝงไว้ซึ่งความทันสมัย เหมาะสำหรับการนั่งรับประทานอาหารกับครอบครัว เมนูอาหารไทยทุกจานได้รับการคัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดี นอกจากนี้คนรักอาหารใต้ต้องไม่พลาด เพราะทางร้านมีบริการอาหารใต้รสจัดเข้มข้นไว้เอาใจนักชิมอีกด้วย   Location: ​      10. ครัวกำปั่นเขาใหญ่     บ้านทรงไทยสวยงาม ท่ามกลางความร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ภายในแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกัน ทั้งด้านในแอร์เย็นฉ่ำและรับลมเย็นๆ ที่ระเบียง เมนูอาหารของทางร้านเน้นอาหารไทย-อีสานรถแซ่บ บรรยากาศแบบไทยๆ ในราคาเป็นกันเองแบบนี้ รับรองว่าได้มาแล้วจะต้องติดใจ   Location: ​     ร้านอาหารอื่นๆ 
28 พฤษภาคม 2561


Rayong Marriott Resort & Spa รีสอร์ท 5 ดาวหนึ่งเดียวในจังหวัดระยอง
ระยอง
สำหรับวันพักผ่อนของใครหลายๆ คน การได้เอนกายริมชายหาดส่วนตัว เคียงข้างท้องทะเลสีฟ้าสดใส คงเป็นอะไรที่รีเล็กซ์ที่สุดแล้วจริงๆ และตัวเลือกชั้นเยี่ยมที่เหมาะกับการพักผ่อนเช่นนี้ที่สุดต้องยกให้ ระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา (Rayong Marriott Resort & Spa) รีสอร์ทระดับ 5 ดาว บริการพรีเมี่ยม ให้คุณหลีกหนีทุกความวุ่นวายในตัวเมือง หันหน้าเข้าสู่ธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์บนหาดแม่พิมพ์ จังหวัดระยอง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แบบครบครันสุดๆ Rooms  กว่า 205 ห้อง เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เตียงนุ่มนอนสบาย มุมนั่งเล่นริมกระจกชมวิวได้ 180 องศา ห้องน้ำแบบ Open ไร้ประตูกั้น มีอ่างอาบน้ำและ Rain Shower ทุกห้อง Deluxe Mountain View Deluxe Ocean View Premier Ocean View Studio Corner Suite One Bedroom Suite Ocean Suite Restaurant & Bars   ความพิเศษของรีสอร์ทแห่งนี้คือ คุณจะไม่มีทางหิวอย่างแน่นอน เพราะมีห้องอาหารและบาร์ต่างๆ บริการมากถึง 5 แห่งด้วยกัน C Salt Café ห้องอาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์ รวมถึงเมนูตามสั่ง ทานได้ตั้งแต่เช้ายันเย็น Fish Bar ห้องอาหารและบาร์ริมทะเล มองเห็นวิวชายหาด เน้น Seafood สดใหม่ ปรุงอย่างพิถีพิถัน The Lounge บาร์บริเวณล็อบบี้ จิบเครื่องดื่มแอลกอฮลล์นั่งชิลล์ตลอดคืน Java+ คาเฟ่สุดชิค เสิร์ฟขนมอบใหม่ พร้อมกาแฟกลิ่นหอมกรุ่น Water Bar บาร์ริมสระ บริการเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและน้ำผลไม้สด C Salt Cafe Fish Bar Java+ Water Bar Spa & Treatments  Quan Spa สปาอันเลื่องชื่อพร้อมดูแลคุณและคนที่คุณรักด้วยบริการอันหรูหราและทรีตเมนท์ที่มีมาเพื่อคุณ ช่วยให้ร่างกายคุณสดชื่น รู้สึกรีเล็กซ์ และผ่อนคลายประดุจเจ้าหญิงก็ไม่ปาน Fitness Centre  บริการฟิตเนสเปิดตลอด 24 ชม. พร้อมคลาสเรียนต่างๆ เอาใจคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ Kids Club  แลนด์มาร์กสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้เด็กๆ สนุกกับการพักผ่อนนี้เช่นกัน ด้านในมีโซนต่างๆ และกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ที่คิดมาเพื่อเด็กๆ โดยเฉพาะ Swimming  ด้วยโลเคชั่นริมทะเลเช่นนี้ แน่นอนว่าชายหาดส่วนตัวและทะเลต้องพิเศษไม่เหมือนที่ไหน สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้จากริมชายหาด นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำอีก 3 แบบ 3 สไตล์แล้วแต่เราจะเลือก Lagoon Main Pool - With Waterslides & Tropical Aquarium Island View Pool – Where the sun rises & sets Rain Dance Kids Pool Lagoon Main Pool Island View Pool Rain Dance Kids Pool ระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา (Rayong Marriott Resort & Spa) ที่พักอันแสนอบอุ่นที่ครบครันด้วยบริการระดับพรีเมี่ยม สมกับเป็นรีสอร์ท 5 ดาวหนึ่งในเดียวของเมืองระยอง หากแต่ละวันของคุณช่างเหนื่อยล้าเหลือเกิน อยากพักผ่อนสงบๆและเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่านแล้วล่ะก็ ระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปาคือทางเลือกที่ใช่สำหรับคุณ :) Rayong Marriott Resort & Spa 99/5 Moo2, Pae-Klaeng-Kram Road,  Chakpong District, Klaeng, Rayong 21190, Thailand T: +66.38.998.000 | F: +66.38.998.111 MarriottRayongResort.com MHRSRayongSales@marriott.com  Facebook : facebook.com/MarriottRayong  
24 สิงหาคม 2561
10 โรงแรมราคาสบายกระเป๋าในอยุธยา
โรงแรม
ของดีใครว่าต้องราคาแพงเสมอไป! ในจังหวัดอยุธยารายล้อมด้วยโรงแรมมากมายไว้รองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก รวมถึงโรงแรมราคาสบายกระเป๋าสุดแสนจะน่าพักและราคาสมเหตุสมผลที่เราจะพาไปชมวันนี้ค่ะ ดูสิว่าจะน่านอนสักแค่ไหน ทราบแล้วรีบมาเช็คอินด่วน!!     อยุธยา การ์เด้น ริเวอร์ โฮม ที่อยู่: หมู่7 บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ราคา: เริ่มต้น 2,400฿       ‘อยุธยา การ์เด้น ริเวอร์ โฮม’ โรงแรมที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทย มีสวนเขตร้อนและทัศนียภาพแม่น้ำ และสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ภายในห้องพักเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงห้องอาหารที่ให้บริการอาหารไทยและตะวันตก โดยใช้วัตถุดิบจากสวนเกษตรอินทรีย์มาทำสลัดและอาหารมังสวิรัติในโรงแรม     โทนี่ส์ เพลส เบด แอนด์ เบรคฟาสต์ ที่อยู่: ถนนนเรศวร ซอย18 ต.หอรัตนไชย ท่าวาสุกรี จ.พระนครศรีอยุธยา ราคา: 1,500 – 4,000฿       ‘โทนี่ส์ เพลส เบด แอนด์ เบรคฟาสต์’ ที่พักบรรยากาศสบายๆ ที่มีบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องพักทั้ง 40 ห้อง ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวด้วยการตกแต่งที่ดูอบอุ่น เหมาะกับทั้งครอบครัว รวมถึงเหล่าแบกแพคเกอร์ด้วยเช่นกัน     บ้านใบไม้ บูติครูม ที่อยู่: ซอยป่าโทน ต.หอรัตนไชย ท่าวาสุกรี จ.พระนครศรีอยุธยา ราคา: 2,000฿       ‘บ้านใบไม้ บูติค รูม’ ที่พักราคาสบายกระเป๋าที่นำเสนอความน่าสนใจส่งตรงถึงหน้าประตู โรงแรมแห่งนี้เพียบพร้อมไปด้วยทุกสิ่งที่คุณต้องการ มีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการครบครัน ทั้งบริการนวด, สนามกอล์ฟ, จักรยานเช่า, Wifi Free     เดอะ พาร์ค เกสท์เฮาส์ ที่อยู่: หมู่3 ถนนนเรศวร ท่าวาสุกรี จ.พระนครศรีอยุธยา ราคา: 1,500 – 2,500฿       ‘เดอะ พาร์ค เกสท์เฮาส์’ ที่พักน่ารักใจกลางเกาะเมืองอยุธยา ใกล้กับวัดมหาธาตุ พร้อมบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภายใต้บรรยากาศที่ร่มรื่นและอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ทำให้ติดใจกลับมาเช็คอินที่นี่ทุกครั้งไป     พระคุณ เฮาส์ ที่อยู่: ถนนนเรศวร ท่าวาสุกรี จ.พระนครศรีอยุธยา ราคา: 1,300 – 1,600฿       ‘พระคุณ เฮาส์’ บริการห้องพักคุณภาพและรอยยิ้มแสนประทับใจ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอยุธยา ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมหลากหลาย และยังเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตต่างๆได้อย่างง่ายดาย รับประกันว่าที่นี่สร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้เข้าพักได้อย่างแน่นอนค่ะ     ใบเฟิร์น โฮมสเตย์ ที่อยู่: หมู่4 ต.ประตูชัย จ.พระนครศรีอยุธยา ราคา: 2,500 – 4,500฿       ‘ใบเฟิร์น โฮมสเตย์’ ที่พักที่ช่วยให้คุณพักผ่อนจากวันทำงานมที่แสนวุ่นวาย ที่นี่สะท้อนความเป็นตัวเองผ่านการออกแบบห้องพัก ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการมากมาย ถือเป็นสถานที่ในฝันของการพักผ่อนสำหรับนักท่องเที่ยวผู้แสวงหาความน่าหลงใหล สุขสบาย และความสะดวกสบายในอยุธยา     ดิโอลพาเลซ รีสอร์ท ที่อยู่: หมู่5 ต.ท่าวาสุกรี จ.พระนครศรีอยุธยา ราคา: 1,200 – 3,000฿        ‘ดิ โอล พาเลซ รีสอร์ท’ ที่พักที่ให้บริการห้องพักกว้างขวางและมอบความเป็นส่วนตัวให้กับนักท่องเที่ยวทุกท่าน เหมาะแก่การมาพักทั้งครอบครัว โอบล้อมด้วยบรรยากาศร่มรื่น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไฮไลท์อยู่ที่บริการนวดแผนไทยและห้องอาหารที่อบอุ่นและมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนที่ไหนๆ     แทมมารีน เกสท์เฮาส์ ที่อยู่: หมู่1 ท่าวาสุกรี จ.พระนครศรีอยุธยา ราคา: 700 – 2,000฿       ‘แทมมารีน เกสท์เฮาส์’ ที่พักอันแสนลงตัวสำหรับนักท่องเที่ยว รวมถึงครอบครัวที่ต้องการดื่มด่ำกับสีสันของอยุธยา ผู้เข้าพักสามารถเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของอยุธยาได้อย่างง่ายดาย ภายในตกแต่งอย่างอบอุ่น ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนอนพักผ่อนอยู่ภายในบ้านของตัวเอง     อยุธยา บูชิค โฮสเทล ที่อยู่: หมู่8 ต.บ้านป้อม จ.พระนครศรีอยุธยา ราคา: 500 – 1,200฿       ‘อยุธยา บูชิค โฮสเทล’ ที่พักสุดชิคสไตล์ไทย ที่ผสมผสานกับความทันสมัยไว้ทุกการตกแต่ง เน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้ มีระเบียงส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีสวนหย่อม และบริการต่างๆ มากมาย ทั้งเช่าจักรยานเที่ยวชมเมือง Wifi ห้องสมุด และยังใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของอยุธยา ทำให้การเดินทางสะดวกมากทีเดียวค่ะ     สตอกโฮม โฮสเทล อยุธยา ที่อยู่: ท่าวาสุกรี จ.พระนครศรีอยุธยา ราคา: 300 – 400฿       ‘สตอกโฮม โฮเทล อยุธยา’ ที่พักสุดชิคในตัวเมือง ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการทุกอย่างครบครัน การตกแต่งเก๋ไก๋ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนอนพักอยู่ในบ้าน พร้อมพื้นที่นั่งเล่นสำหรับผ่อนคลาย ห้องครัวส่วนกลาง รวมถึงห้องอาหารที่ให้คุณได้อิ่มอร่อยตลอดทั้งวัน   จองโรงแรมอื่นในพระนครศรีอยุธยา 
24 พฤษภาคม 2561